มูดีส์ อนาไลติกส์ และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า แผนการสร้างงงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา อาจจะช่วยหนุนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 2%
นายมาร์ค แซนดี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมูดีส์กล่าวว่า ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะถดถอยนั้น แผนการสร้างงานของโอบามาอาจจะช่วยกอบกู้ความเชื่อมั่น และยับยั้งภาวะถดถอยเอาไว้ได้ และคาดว่าแผนการดังกล่าวจะช่วยหนุนจีดีพีให้ขยายตัวอีก 2% ประธานาธิบดีโอบามาได้เปิดเผยแผนกระตุ้นการสร้างงานฉบับใหม่ต่อสภาคองเกรสสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งแผนการดังกล่าวมีชื่อว่า "American Jobs Act" คิดเป็นมูลค่า 4.47 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงานภายในประเทศ
โอบามาได้เสนอโครงการลงทุนในสาธารณูปโภคพื้นฐานมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเขาเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติการจัดหาเงินทุนมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ให้กับอุตสาหกรรมสาธารณูปโภคทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนเงินทุนให้กับภาคเอกชนและภาครัฐ เพื่อนำไปใช้ในการลงทุนในโครงการดังกล่าวเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ โอบามายังได้เสนอโครงการป้องกันไม่ให้อาชีพครูอาจารย์จำนวน 280,000 คนต้องถูกเลย์ออฟ และปกป้องเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานดับเพลิงไม่ให้ถูกเลย์ออฟเช่นกัน
นายไมเคิล เฟโรลี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกนกล่าวว่า แผนการสร้างงานของโอบามาจะช่วยหนุนจีดีพีของสหรัฐให้ขยายตัวขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม การที่โอบามาวางแผนลดการใช้จ่ายในภาครัฐก็อาจจะเป็นปัจจัยที่ขัดขวางการขยายตัวของเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์คาดว่า แผนการสร้างงานของโอบามาอาจช่วยหนุนจีดีพีสหรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 1.5% ขณะที่นักวิเคราะห์จากไมโครอิโคโนมิค แอดไวเซอร์ส คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.3% และนักวิเคราะห์จากยูนิเครดิต รีเสิร์ชคาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 2%