นายกฯ เยือนอินโดฯ เจรจาขยายความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล-ประมง-พลังงาน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 12, 2011 17:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือข้อราชการกับนายซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซียในโอกาสเดินทางเยือนอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการว่า การหารือกับประธานาธิบดีมีสาระครอบคลุมทั้งในระดับทวิภาคี ภูมิภาค และพหุภาคี โดยเฉพาะระดับทวิภาคีจะขยายความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล พลังงาน และประมง

ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องว่ายังคงมีลู่ทางที่จะขยายความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมฮาลาล พลังงาน และประมง โดยใช้จุดแข็งของกันและกันส่งเสริมความร่วมมือ ปัจจุบัน มีภาคเอกชนไทยจำนวนมากที่ลงทุนและดำเนินธุรกิจในอินโดนีเซีย โดยเฉพาะด้านพลังงาน

"นายกรัฐมนตรีได้ย้ำกับประธานาธิบดีว่ารัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนความร่วมมือกับอินโดนีเซียบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน และสนับสนุนให้บริษัทเหล่านี้ของไทยดำเนินธุรกิจในอินโดนีเซียด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility - CSR) นอกจากนี้ เรายังหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถลงนามในความตกลงทางการค้าระหว่างกันได้ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น"เอกสารเผยแพร่ของสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในด้านต่าง ๆ ระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ซึ่งมีความคืบหน้า นอกจากนี้ ทั้งไทยและอินโดนีเซียต่างยึดมั่นในค่านิยมและหลักการที่คล้ายคลึงกันในอันที่จะส่งเสริมประชาธิปไตย เสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ธรรมาภิบาล และนิติรัฐ

นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีพอใจที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพิ่มพูนขึ้นระหว่างสองประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งต่างฝ่ายต่างเป็นคู่ค้าที่สำคัญของกันและกัน ในปี 2553 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอินโดนีเซียมีมูลค่าประมาณ 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีอินโดนีเซียสำหรับความสำเร็จด้านนโยบายการปฏิรูปประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของอินโดนีเซีย ซึ่งมีความก้าวหน้ามาก ในระดับทวิภาคีต่างฝ่ายก็พอใจพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียที่มีความใกล้ชิดและมีพลวัตรในทุกด้านและทุกระดับ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงนโยบายและเจตนารมณ์ของรัฐบาลไทยที่จะส่งเสริมและเพิ่มพูนความร่วมมือกับอินโดนีเซีย เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศทั้งสอง ระดับภูมิภาค นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมบทบาทนำของอินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียน ในการผลักดันบทบาทอาเซียนให้โดดเด่น ทั้งในภูมิภาคและเวทีระหว่างประเทศ เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี ค.ศ. 2015 พร้อมทั้งยืนยันเจตนารมณ์ทางการเมืองและความมุ่งมั่นของไทยในการสนับสนุนการดำเนินการของอินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนอย่างเต็มที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ ๑๙ ซึ่งอินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพที่บาหลี ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ จะประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง

ในฐานะประเทศมุสลิมสายกลางที่มีประชากรที่นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก อินโดนีเซียเป็นพันธมิตรและตัวเชื่อมสำคัญระหว่างไทยกับประเทศมุสลิมอื่น ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ถือโอกาสนี้ขอบคุณประธานาธิบดีอินโดนีเซียต่อการสนับสนุนและความเข้าใจนโยบายของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้รวมทั้งการให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ตลอดจนความร่วมมือในกรอบองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization of Islamic Cooperation - OIC)

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ รมว.ต่างประเทศและเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา สานต่อผลการหารือในการเยือนครั้งนี้ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอันจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ