ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า อิตาลีกำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่จีนเพื่อขอให้จีนให้เข้าซื้อพันธบัตรอิตาลี อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป รวมถึงข่าวที่ว่ามูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารในฝรั่งเศส เนื่องจากธนาคารเหล่านี้ถือครองพันธบัตรของกรีซอยู่เป็นจำนวนมาก
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.21% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3679 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3651 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.13% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5860 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5880 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.45% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.200 เยน จากระดับ 77.550 เยน และอ่อนตัวลง 0.35% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8804 ฟรังค์ จากระดับ 0.8835 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.23% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0340 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0469 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8221 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8212 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า รัฐบาลอิตาลีกำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่จีน เพื่อขอให้จีนเข้าซื้อพันธบัตรของอิตาลีเพื่อช่วยกู้วิกฤตหนี้สาธารณะ โดยข่าวดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่อิตาลีจะนำพันธบัตรมูลค่า 7 พันล้านยูโร หรือ 9.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐออกมาประมูลขาย
อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัดเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากนายฟิลิป รอสเลอร์ รมว.เศรษฐกิจของกรีซกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้บางส่วนขณะที่นายฟิลิปปอส ซาชินิดิส รมช.คลังกรีซยอมรับว่า รัฐบาลกรีซมีเงินสดเพียงพอสำหรับการบริหารประเทศไปได้จนถึงเดือนหน้าเท่านั้น
ทั้งนี้ ปัญหาหนี้สาธารณะทำให้รัฐบาลกรีซประกาศมาตรการใหม่ในการจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณประจำปีนี้ และเพื่อดำเนินการตามเงื่อนไขการรับความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟและอียู โดยนายอีวานเจลอส เวนิเซลอส รมว.คลังกรีซ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีกรีซได้ตกลงกันเกี่ยวกับมาตรการจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์เพื่อระดมทุนราว 2 พันล้านยูโร และเพื่อบรรลุเป้าหมายในการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณประจำปีนี้ ซึ่งมีวงเงินราว 8.1% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
นอกจากนี้ ยูโรได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อมีรายงานว่ามูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารในฝรั่งเศส เนื่องจากธนาคารเหล่านี้ถือครองพันธบัตรของกรีซอยู่เป็นจำนวนมาก
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนส.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนก.ย.ของสหรัฐ