นางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมทางโทรศัพท์ร่วมกับนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาประเทศไทยว่า กรีซยังคง "เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากยูโรโซนได้" พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นต่ออนาคตของกรีซว่าจะยังสามารถรวมกลุ่มอยู่ในยูโรโซนได้ต่อไป
นอกจากนี้ นางแมร์เคลและนายซาร์โกซียังกล่าวย้ำต่อนายกรัฐมนตรีปาปันเดรอูของกรีซว่า "จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำยูโรโซนจะต้องดำเนินการตามข้อตกลงที่ให้ไว้เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ในเรื่องการสร้างเสถียรภาพในยูโรโซน"
นายอิเลียส มอสเซียลอส โฆษกรัฐบาลกรีซกล่าว "หลังจากการประชุมทางโทรศัพท์ซึ่งใช้เวลาประมาณ 25 นาทีเสร็จสิ้นลง ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า กรีซเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกออกจากยูโรโซนได้ แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลือกว่ากรีซจะถูกขับออกจากยูโรโซนก็ตาม"
นอกจากนั้น นายมอสเซียลอสเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายกรัฐมนตรีปาปันเดรอูของกรีซได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าในยุโรปว่า กรีซจะดำเนินการตามข้อตกลงต่างๆ ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อให้กรีซสามารถบรรลุเป้าหมายการหลุดพ้นจากวิกฤติหนี้ในระยะเวลา 3 ปี และเพื่อแลกเปลี่ยนกับการรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู)
ด้านทำเนียบประธานาธิบดีของฝรั่งเศสยืนยันว่า ประธานาธิบดีซาร์โกซีมีความตั้งใจที่จะใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อสร้างเสถียรภาพในยูโรโซน พร้อมกับระบุว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่กรีซจะต้องดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อหนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีความสมดุล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข่าวผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสที่ออกมารับรองการเป็นสมาชิกภาพยูโรซนของกรีซ ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 140.88 จุด หรือ 1.27% ปิดที่ 11,246.73 จุดเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) และยังช่วยหนุนสกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐด้วย
นักวิเคราะห์จากร็อคเวลล์ โกลบอล แคปิตอลกล่าวว่า นักลงทุนคลายความวิตกกังวลหลังจากที่ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสได้แสดงความเป็นมิตรและยอมรับกรีซในฐานะสมาชิกยูโรโซน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้นำทั้งสองได้ออกมาคัดค้านโดยตลอดว่ากรีซไม่ควรได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินเพราะจะเป็นเยี่ยงอย่างแก่ประเทศอื่นๆในยูโรโซนที่ไม่มีวินัยด้านการคลัง นอกจากนี้ แถลงการณ์ร่วมของนายกรัฐมนตรีแมร์เคลและประธานาธิบดีซาร์โกซียังถือเป็นการส่งสัญญาณว่า ผู้นำยุโรปจะช่วยเหลือกรีซให้สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤติหนี้ลุกลามในยุโรป