World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Friday September 16, 2011 06:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) พร้อมด้วยธนาคารกลางชั้นนำอีก 4 แห่งของโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ ประกาศว่าจะจัดหาเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในภาคธนาคารของยุโรป อันเป็นผลมาจากวิกฤติหนี้สาธารณะ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 186.45 จุด หรือ 1.66% ปิดที่ 11,433.18 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 20.43 จุด หรือ 1.72% ปิดที่ 1,209.11 จุด ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 34.52 จุด หรือ 1.34% ปิดที่ 2,607.07 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) ขานรับข่าวที่ว่าบรรดาธนาคารกลางชั้นนำของโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศว่าจะร่วมมือกันกอบกู้วิกฤตภาคธนาคารของยุโรปด้วยการจัดหาเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงข้อมูลในภาคการผลิต

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ขยับขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 89.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) พร้อมด้วยธนาคารกลางชั้นนำอีก 4 แห่งของโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะจัดหาเงินกู้เพื่อช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซน ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และยังได้ฉุดสัญญาทองคำปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,800 ดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 45.1 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 1,781.4 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) พร้อมด้วยธนาคารกลางชั้นนำอีก 4 แห่งของโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะจัดหาเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซน โดยมีเป้าหมายที่จะลดภาวะตึงตัวในภาคธนาคาร ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับค่าเงินหลักๆ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.99% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3881 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3745 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5794 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5764 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.03% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.630 เยน จากระดับ 76.650 เยน และร่วงลง 0.77% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8691 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8758 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.52% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0317 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0264 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดตัวขึ้น 0.37% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8223 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8193 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) ขานรับข่าวที่ว่าผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสยืนยันว่ากรีซยังคงเป็นส่วนหนึ่งของยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าหลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) พร้อมด้วยธนาคารกลางชั้นนำอีก 4 แห่งของโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะจัดหาเงินกู้เพื่อช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซน

ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 110.52 จุด หรือ 2.1% ปิดที่ 5,337.54 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ