นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย(ทีทีอาร์) เปิดเผยว่า วานนี้(15 ก.ย.) หัวหน้าส่วนต่างประเทศภูมิภาคเอเชียใต้ของบริษัททาทา อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของอินเดียได้เข้าพบเพื่อหารือถึงโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับอินเดีย โดยสนใจเร่งลงทุนกับไทยด้านไฟฟ้าพลังงานน้ำ ก๊าซ พลังงานทดแทน และเหมืองแร่ รวมทั้งสนใจร่วมลงทุนในในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ ซึ่งทาทามีประสบการณ์ด้านการลงทุนมาแล้วในหลายประเทศในภูมิภาคแอฟริกา
นอกจากนี้ ทาทายังแสดงความสนใจร่วมลงทุนด้านเกษตรกับไทย โดยเห็นว่าไทยมีศักยภาพด้านการจัดการเกษตร คาดว่าโครงการลงทุนในไทยดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่ายในระยะยาว
ขณะเดียวกัน ทาทาสนใจจะนำเข้าสินค้าเหล็ก และเศษเหล็ก ส่วนประกอบยานยนต์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพส่งออก โดยเฉพาะเศษเหล็ก ซึ่งอินเดียเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย โดยไทยส่งออกไปมากถึง 25% ของการส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทยไปตลาดโลก และในขณะเดียวกันทาทาได้นำเสนอให้ไทยพิจารณานำเข้าตู้รถไฟซึ่งเป็นสินค้าที่อินเดียมีศักยภาพซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อโครงการรถไฟความเร็วสูงของไทยในอนาคต
นางนลินี กล่าวว่า การร่วมลงทุนกับอินเดียและการขยายการส่งออกสินค้าที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพจะเป็นประโยชน์และเป็นโอกาสทางการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการไทยอย่างมาก โดยอินเดียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในตลาดเอเชียใต้ และเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดตลาดหนึ่งของไทย
ทั้งนี้การค้ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวเป็นผลจากการที่ไทยมีมาตรการส่งเสริมการส่งออกไปยังตลาดอินเดีย โดยในปี 2553 การค้าไทย-อินเดียมีการขยายตัวทั้งในด้านการส่งออกและนำเข้า การค้ารวมมีมูลค่าประมาณ 6.65 พันล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว 34.2%
อย่างไรก็ดี ด้านการลงทุนระหว่างไทยกับอินเดียยังมีมูลค่าไม่มากนัก โดยเป็นการลงทุนในโครงการขนาดกลางและขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น รวมทั้งลงทุนในหลากหลายสาขามากขึ้น เช่น เคมีภัณฑ์ กระดาษ พลาสติก ยานยนต์ โลหะพื้นฐาน (เหล็ก อลูมิเนียม) อิเล็กทรอนิกส์และผลิตภัณฑ์ เหมืองแร่ และเซรามิกส์ เป็นต้น
ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า เมื่อเทียบกับศักยภาพของทั้งสองที่ยังมีอยู่มาก จึงควรกระตุ้นให้นักลงทุนทั้งสองฝ่ายลงทุนให้มากขึ้น ซึ่งในฐานะทีทีอาร์จึงมีแผนจะนำคณะนักลงทุนไทยไปหารือกับผู้บริหารระดับสูงของอินเดียเพื่อหาลู่ทางการค้าและการลงทุน และใช้ประโยชน์จากศักยภาพของทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่ต่อไป