นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) กล่าวว่า จากมาตรการของรัฐบาลในการลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันในส่วนของเบนซินและดีเซลตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดการใช้น้ำมันเบนซิน 91 ของบางจาก ยังปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 30% จากเดิมที่มีการใช้ 15 ล้านลิตร/เดือน เพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านลิตร ขณะที่การใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลงกว่า 20% จาก 13 ล้านลิตรต่อเดือน เหลือ 12 ล้านลิตร/เดือน ส่วนยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ในระดับคงที่ประมาณ 30-40 ล้านลิตร/เดือน
ดังนั้น บางจากฯ ต้องการให้รัฐบาลใช้กลไกจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาเพิ่มเงินชดเชยส่วนต่างราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 อีกลิตรละ 1.50 บาท เพื่อให้มีส่วนต่างระหว่างราคาระหว่างเบนซิน 91 กับแก๊สโซฮอล์ 95 ให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ราคาเท่ากัน เพื่อจูงใจประชาชนให้หันกลับมาใช้แก๊สโซฮอล์ 95 มากขึ้น ทั้งนี้จะทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องใช้เงินในการชดเชยประมาณ 80-90 ล้านบาท/เดือน
นายอนุสรณ์ คาดว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีโอกาสปรับสูงขึ้น เนื่องจากเข้าช่วงฤดูหนาวทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลที่อาจจะปรับขึ้นไปที่ระดับ 130 ดอลลาร์/บาร์เรล และน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ 110 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่สถานการณ์ราคาน้ำมันจะไม่ปรับขึ้นรุนแรงเท่ากับปีที่ผ่านมา เนื่องจากยังคงมีปัญหาเศรษฐกิจทั้งในสหภาพยุโรป และสหรัฐฯ
โดยราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 105 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันในปีหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ 90 - 110 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยปัจจัยเสี่ยงยังขึ้นอยู่กับปัญหาเศรษฐกิจโลกเป็นปัจจัยหลัก