นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ กล่าวในระหว่างการประชุมรมว.คลังของสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศโปแลนด์ว่า ผู้นำยุโรปจำเป็นต้องมีความเป็นเอกภาพในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ โดยเรียกร้องให้ผู้นำยุโรปลดความขัดแย้งและขจัดความเสี่ยงออกไปจากตลาด และให้มุ่งเน้นเรื่องการรักษาเสถียรภาพของภูมิภาคเป็นหลัก เพื่อไม่ให้วิกฤหนี้สาธารณะลุกลามไปมากกว่าที่เป็นอยู่
นอกจากนี้ ไกธ์เนอร์ยังเรียกร้องให้ผู้นำยุโรปเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ นายไกธ์เนอร์ไม่ได้แสดงท่าทีกดดันให้ยุโรปแก้ไขวิกฤติหนี้ตามแนวทางที่สหรัฐต้องการ
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การแสดงความคิดเห็นของไกธ์เนอร์สะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐยังคงวิตกกังวลว่าการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรปอาจจะฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และสอดคล้องกับที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ รวมถึงนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะชะลอตัวลงอย่างมากหากไม่มีการแก้ไขปัญหาหนี้ในยุโรป
สำหรับการเดินทางไปร่วมประชุมรมว.คลังอียูที่ประเทศโปแลนด์ในครั้งนี้ ไกธ์เนอร์ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายฟรองซัว บารวง รมว.คลังฝรั่งเศส นายอีแวนเจลอส เวนิเซลอส รมว.คลังของกรีซ และนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) นอกจากนี้ นายไกธ์เนอร์ยังได้รับเกียรติให้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมผู้บริหารธุรกิจการเงิน