ธนาคารกลางสเปนเปิดเผยว่า หนี้ในภาคสาธารณะของสเปนปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.51% ในไตรมาส 2 ของปีนี้ สู่ระดับ 702,806 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้วที่ระดับ 682,854 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 65.2% ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP) เทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้วที่ระดับ 57.2% ต่อ GNP
การปรับตัวขึ้นของหนี้ในภาคสาธารณะมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่คณะรัฐมนตรีสเปนประกาศใช้มาตรการลดการใช้จ่ายและกระตุ้นรายได้ด้านการคลัง ด้วยการเรียกเก็บภาษีจากคนรวย ซึ่งรัฐบาลคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นรายได้ด้านการคลังได้ถึง 1,080 ล้านยูโรในระยะเวลา 2 ปี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลสเปนเร่งประกาศใช้มาตรการลดการใช้จ่ายเพื่อลดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรป และเพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นที่จะออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 20 พ.ย.นี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติสเปนเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสเปนขยายตัวเพียง 0.2% ในไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 0.3%