นางนลินี ทวีสิน ในฐานะผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เร่งหารืออุปทูตคาซัคสถาน ประจำประเทศไทย และผู้จัดการภูมิภาคแห่งสายการบินแอสทานาของคาซัคสถาน เกี่ยวกับโอกาสเชิงรุกบุกคาซัคสถานตลาดใหม่ เพื่อเร่งขยายมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับคาซัคสถาน มุ่งดันธุรกิจพลังงาน เภสัชกรรม ก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง โลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว
นางนลินี เปิดเผยว่า ได้หารือทวิภาคีกับอุปทูตคาซัคสถาน ประจำประเทศไทย และผู้จัดการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและออสเตรเลีย แห่งสายการบินแอสทานาของคาซัคสถาน เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าในเชิงลึกระหว่างไทยกับคาซัคสถาน รวมทั้งโอกาสและศักยภาพทางการค้าและการลงทุน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า แม้การค้าและการลงทุนระหว่างกันยังมีมูลค่าไม่มากนัก ในระหว่างปี 2008-2010 มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 62.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ยังมีโอกาสขยายตัวอีกมาก
ปัจจุบันคาซัคสถานมีนโยบายในการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจการค้า โดยมีแผนยุทธศาสตร์ปี 2020 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาและขยายตัวทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งในด้านการเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันทางการค้า และการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยพึ่งพาการส่งออกพลังงานและวัตถุดิบจำพวกแร่ธาตุ ซึ่งเศรษฐกิจของคาซัคสถานขยายตัว เนื่องจากผลผลิตการเกษตรและการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.8 และ 8.1 ตามลำดับ สำหรับภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในทิศทางเดียวกันทั้งเหมืองแร่เหมืองหิน และอุตสาหกรรมแปรรูป ในขณะเดียวกัน มีการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสาขาที่ไม่ใช่พลังงาน เพื่อสร้างความสมดุลในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ คาซัคสถานมีการรวมกลุ่มเศรษฐกิจกับรัสเซียและเบลารุส เพื่อเป็นตลาดร่วม โดยมีการเคลื่อนย้ายของสินค้า บริการ เงินทุน และแรงงานอย่างเสรี รวมทั้งมีการอำนวยความสะดวกทางการค้าด้านโลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนและเวลาในการขนส่งสินค้าจากคาซัคสถานสู่ตลาดอื่นในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งเป็นจุดแข็งทางการค้าและการลงทุนของตลาดดังกล่าว จึงจัดเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจในภูมิภาคเอเชียกลางโดยคาซัคสถานเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 3 ของไทยในกลุ่มเครือรัฐเอกราช มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ เช่น น้ำมันปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน แร่เหล็ก แมงกานีส นิคเกิล ยูเรเนียม และสังกะสี ซึ่งสามารถเป็นแหล่งวัตถุดิบเพื่อการผลิตและส่งออก เพื่อเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของไทย
นางนลินี กล่าวต่อว่า ในการหารือครั้งนี้ ได้ข้อสรุปในการกำหนดแผนงานการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับคาซัคสถานอย่างเป็นรูปธรรม โดยเห็นพ้องให้มีการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศโดยอาจให้จัดมีการประชุม Business Forum ซึ่งจะนำไปสู่การดำเนินการในเชิงรุกระหว่างกันต่อไป
ทั้งนี้ คาซัคสถานเชิญชวนนักลงทุนไทยไปร่วมลงทุนด้านพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และ เหมืองแร่ รวมทั้ง เภสัชกรรม อาหารแปรรูป ก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง โลจิสติกส์ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ซึ่งตนมั่นใจว่า จากการขยายเที่ยวบินของสายการบินแอสทานาใน 5 ครั้งต่อสัปดาห์จะเป็นกลไกอำนวยความสะดวกทางการค้า และการลงทุน อีกทั้ง ส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และหากสามารถสรุปผลการจัดทำร่างความตกลงทางการค้าระหว่างกันได้ จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน รวมทั้งความร่วมมือทางการค้าระหว่างกันให้แน่นแฟ้นอีกทางหนึ่งด้วย