นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ คาดการณ์ว่า ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนส.ค.54 ยังมีอัตราการเติบโตที่ดี และทั้งปีนี้ยังเชื่อว่าจะส่งออกได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 15% ส่วนในปี 55 ยังคงใช้เป้าหมายการส่งออกที่ 15% เช่นกันแม้จะเกิดปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปก็ตาม
ทั้งนี้จากปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรปนั้น นายกิตติรัตน์ มองว่า ในระยะสั้นยังไม่น่ากังวล แต่ระยะยาวปัญหาดังกล่าวจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยและอาเซียนแน่ ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่ควรจะหันมาพึ่งพาการส่งออกภายในกลุ่มอาเซียนด้วยกันเองให้มากขึ้น เพื่อทดแทนตลาดสหรัฐฯ และยุโรปที่ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ โดยเชื่อว่าประเทศจีนและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกและอาเซียนยังสามารถรองรับการส่งออกได้ในสัดส่วนที่สูงได้ ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการส่งออกไปหาแนวทางการตลาดเพื่อเพิ่มกำลังภายในประเทศด้วย
รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่วันนี้เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ได้พาคณะผู้บริหาร และประธานหอการค้ามาเลเซียเข้าเยี่ยมคารวะ โดยได้มีการหารือถึงการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งไทยได้เสนอแนวคิดที่จะชักชวนนักธุรกิจของมาเลเซียมาจัดทำหลักสูตรการบริหารร่วมกัน เพื่อช่วยสร้างความเข้าใจเงื่อนไขการทำธุรกิจของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งฝ่ายมาเลเซียแสดงความเห็นด้วยและพร้อมจะสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวของไทย
ขณะเดียวกันในปีหน้าประเทศไทยจะปรับลดภาษีนิติบุคคลลงตามนโยบายของรัฐบาล และในอนาคตตามข้อตกลงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ที่ภายในปี 58 จะมีการปรับเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจของต่างชาติจาก 49% เป็น 70% ได้นั้น จึงถือเป็นโอกาสดีที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนในมาเลเซียเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และเชื่อว่าการค้าของไทย-มาเลเซียจะปรับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อน