จัสติน ยีฟู หลิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และรองประธานอาวุโสของธนาคารโลกกล่าวว่า ในขณะที่อเมริกาและยุโรปต่างก็เผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอยและวิกฤตหนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งของจีนจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างมาก
นายหลินกล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวซินหัวในกรุงวอชิงตันว่า ประชาคมโลกที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดแนบแน่น การเติบโตของประเทศกำลังพัฒนาถือว่าเป็นกลไลสำคัญในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของโลก
“ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันของโลก ถ้าเศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตเข้มแข็งอย่างนี้ ถือว่าจีนจะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยเศรษฐกิจโลกพ้นวิกฤตได้" เขากล่าวหลังงานแถลงข่าวให้สื่อมวลชนรับทราบถึงรายงานเรื่อง การพัฒนาโลก ปี 2555 ซึ่งนำเสนอก่อนการประชุมประจำปีที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้
ประเทศจีนมีบทบาทสำคัญขึ้นเรื่อยๆในการแสดงความคิดเห็นต่างๆเรื่องนโยบายที่สำคัญ รวมถึงการแสดงความคิดเห็นในกลุ่มประเทศ G20 และองค์กรสำคัญระดับโลก และยังได้รับเสียงชื่นชมสำหรับบทบาทในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของโลก
แต่นายหลินเน้นย้ำว่า 60% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจของโลกรวมกันยังถือว่าประเทศที่พัฒนาแล้วยังคงมีส่วนในการสร้างและพัฒนา ในขณะที่ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เริ่มส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน การส่งออก และเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในช่วงฤดูร้อนนี้
ผู้กำหนดนโนบายในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่รวมถึงจีน ควรจะต้องตื่นตัวเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนจากภายนอกหลายประการและติดตามแรงกดดันเงินเฟ้อภายในประเทศและภาวะฟองสบู่สินทรัพย์
จีนยังสามารถดูแลสภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานให้เติบโตอย่างมั่นคงและรวดเร็ว ในขณะที่อัตราการออมทรัพย์ในภาคครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูง และแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรม โครงการสร้างสาธารณูปโภคใหม่ๆ และโครงการพัฒนาชนบทก็ยังคงมีสูงเช่นกัน
เขากล่าวว่า ความกังวลอีกระลอกเรื่องหนี้กลุ่มประเทศยูโรโซนและการปรับลดเครดิตของสหรัฐนั้น ถือเป็นปัจจัยที่สั่นคลอนตลาดการเงิน
“ผู้กำหนดนโยบายในประเทศที่พัฒนาแล้วควรคำนึงผลกระทบที่ต่อเนื่องเมื่อนำนโยบายมาใช้" เขากล่าวเตือน
นายหลินกล่าวว่า สกุลเงินดอลลาร์และยูโรต่างก็เป็นสกุลเงินสำรองระหว่างประเทศ และทั้งสหรัฐและกลุ่มประเทศยูโรโซนต่างก็มีกำลังและทรัพยากรที่จะช่วยแก้ปัญหาปัญหาเศรษฐกิจได้
เขายืนกรานว่า ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากในการดำเนินนโยบายกระตุ้นการคลังระยะสั้น เพื่อลดปัญหาการว่างงานและการปรับเปลี่ยนนโยบายการคลังในระยะยาว
“แนวทางหนึ่งที่ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด คือ การใช้มาตรการกระตุ้นระยะสั้นด้านการคลัง เพื่อหมุนเงินไปยังโครงการที่จะช่วยลดภาวะชะงักงันของการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว" เขากล่าว ทั้งนี้ นายหลินยังเสริมว่า วิธีการเหล่านี้ช่วยให้เกิดการสร้างงาน พัฒนาการเพิ่มผลผลิต และเพิ่มรายได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ นายหลินยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับความวิตกกังวลในตลาดอันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้ยูโรโซนและการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนตัวในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วว่า โอกาสที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยนั้นยังคงมีอยู่ แม้ว่าจะมีโอกาสอยู่น้อยก็ตามในอนาคตอันใกล้นี้
นายหลินเตือนว่า ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอาจจะเผชิญกับสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับญี่ปุ่น ซึ่งตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจชะงักงันเป็นเวลานานและอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง
ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศมีกำหนดการประชุมประจำปีในเดือนนี้ที่กรุงวอชิงตัน
บทสัมภาษณ์โดย เจียง ซูเฟิง, หลิว ลีนา จากสำนักข่าวซินหัว