ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้เปิดเผยแผนการจัดเก็บภาษีฉบับใหม่ ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถระดมรายได้จากการจัดเก็บภาษีราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยโอบามาแถลงแผนการดังกล่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาประเทศไทย
นอกจากนี้ โอบามายังได้เสนอแผนการระดมรายได้ราว 5.80 แสนล้านดอลลาร์จากการลดการใช้จ่ายในบางด้าน ซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายในโครงการ Medicare และ Medicaid, รายได้ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ที่จะมาจากการยุติการทำสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน และรายได้ 4.30 แสนล้านดอลลาร์จะมาจากการออมเงินที่ใช้ในการจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ทั้งนี้ แผนการดังกล่าวเป็นแผนที่นอกเหนือไปจากแผนการสร้างงาน (American Jobs Act) มูลค่า 4.47 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งโอบามาได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา
"นี่จะเป็นมาตรการลดการใช้จ่ายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องมีส่วนร่วมในการแบกรับภาระนี้ รวมถึงคนร่ำรวยและบริษัทขนาดใหญ่" โอบามากล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้สมาชิกพรรคเดโมแครทและรีพับลิกันร่วมกันรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาหนี้ของประเทศ
นอกจากนี้ โอบามากล่าวว่า คณะทำงานของเขาจะดำเนินการปฏิรูปโครงการประกันสังคม แต่จะไม่ละเลยต่อการให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานของประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การแถลงแผนลดยอดขาดดุลของโอบามาแทบจะไม่ได้รับการตอบรับจากตลาดการเงิน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าโอกาสแผนการขึ้นภาษีของโอบามาจะผ่านความเป็นชอบจากสภาคองเกรสนั้น มีน้อยมาก เนื่องจากพรรครีพับลิกันคัดค้านนโยบายการขึ้นภาษีมาโดยตลอด