ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยผลสำรวจรายไตรมาสพบว่า ภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นครอบครองเงินสดและเงินฝากสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 828.52 ล้านล้านเยน สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนมีแนวโน้มที่จะเก็บรักษาทรัพย์สินที่ปลอดภัย หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มี.ค.และตลาดหุ้นซบเซา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จำนวนเงินดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1.9% และเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2540
ในเขตโตโฮกุทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ พบว่า ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 1.24 ล้านล้านเยนจากปลายเดือนมี.ค. ซึ่งธนาคารกลางระบุว่ามาจากเงินบริจาคและเงินประกัน
ยอดสินทรัพย์คงค้างของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงผู้ที่ทำงานส่วนตัว เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1.2% มาอยู่ที่ 1,490.86 ล้านล้านเยน
สำหรับปริมาณสินทรัพย์ทางการเงิน หุ้น และทรัพย์สินอื่นๆลดลง 0.6% มาอยูที่ 90.02 ล้านล้านเยน ส่วนกองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น 1.7% มาอยู่ที่ 52.62 ล้านล้านเยน
หนี้สินของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นเพิ่มขึ้น 4.1% มาอยู่ที่ 1,076.41 ล้านล้านเยน ขณะที่มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ คำนวณโดยการนำมูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินลบด้วยหนี้สิน อยู่ที่ 1,138.35 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 2.6 %