สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมคืนวันพุธที่ 21 ก.ย.ตามเวลาไทย ขณะที่สกุลเงินฟรังค์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศในปีนี้และปีหน้า ส่วนค่าเงินยูโรได้แรงหนุนจากข่าวรัฐบาลกรีซสามารถประมูลขายพันธบัตรได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3696 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3683 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5735 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5694 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.14% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.460 เยน จากระดับ 76.570 เยน แต่พุ่งขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8876 ฟรังค์ จากระดับ 0.8817 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.61% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0270 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0208 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดตัวขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8238 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8229 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเฟดอาจจะใช้มาตรการ "Operation Twist" หรือการเพิ่มอายุการไถ่ถอนของสินทรัพย์ในงบดุล โดยมีเป้าหมายเพื่อกดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นได้เป็นอย่างมาก แต่การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้สภาพคล่องสกุลเงินดอลลาร์ในระบบการเงินสูงขึ้น และจะสร้างแรงกดดันให้กับมูลค่าของดอลลาร์
ค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะของกรีซ (PDMA) เปิดเผยว่า รัฐบาลกรีซสามารถระดมทุนครั้งล่าสุดได้ 1.625 พันล้านยูโร หรือ 2.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการออกพันธบัตรชุดใหม่อายุ 3 เดือน ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 4.56% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการประมูลครั้งก่อน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้ตลาดผ่อนคลายจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวัน หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลง 1 ขั้น สู่ระดับ A/A-1 จากอันดับเดิมที่ A+/A-1+ พร้อมกับคงแนวโน้มความน่าเชื่อถือไว้ที่ "เชิงลบ" เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของอิตาลีอยู่ในภาวะที่เปราะบางมาก
ส่วนเงินฟรังค์สวิสร่วงลงหลังจากรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัว 1.9% ในปีนี้ และ 0.9% ในปีหน้า ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.1% ในปีนี้ และ 1.5% ในปีหน้า พร้อมระบุว่ามูลค่าของสกุลเงินฟรังค์ยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก แม้ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ได้กำหนดเพดานการเคลื่อนไหวของเงินฟรังค์เมื่อเทียบกับยูโรแล้วก็ตาม
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนส.ค.หดตัวลง 5% สู่ระดับ 571,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 590,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐ
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนส.ค.