กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นขยายตัว 2.8% จากปีก่อนในเดือนสิงหาคม นับเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในเดือนมีนาคม โดยกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัว
รายงานเบื้องต้นของกระทรวงระบุว่า มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 5.3575 ล้านล้านเยน ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 6.1328 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 19.2% ส่งผลให้มียอดขาดดุลที่ 7.753 แสนล้านเยน และเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
ทั้งนี้ ยอดส่งออกของญี่ปุ่นได้ปรับตัวลดลงเนื่องจากเหตุการณ์ภัยพิบัติในเดือนมีนาคม ส่งผลให้ยอดการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของประเทศต้องหยุดชะงักลง
ยอดส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้น 5.3% และเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยกระทรวงฯ ชี้ว่า ห่วงโซ่อุปทานที่สะดุดลงในทั่วทั้งประเทศได้รับการแก้ไขเกือบทั้งหมด
ยอดนำเข้าของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 20 ติดต่อกัน เนื่องจากต้นทุนพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่เหตุการณ์แผ่นดินไหวได้กระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวลแก่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งในประเทศ ส่งผลให้ญี่ปุ่นนำเข้าพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมไปถึง ก๊าซธรรมชาติเหลวสำหรับการผลิตไฟฟ้าจากความร้อน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน