หวู เสี่ยวหลิง สมาชิกสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) และรองประธานคณะกรรมการกิจการเศรษฐกิจและการเงินซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ NPC แสดงความเห็นว่า จีนจะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างยาวนาน และคาดว่าจีนจะยังคงใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไปในระยะใกล้นี้
นอกจากนี้ คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้ และปีหน้า โดยมีความเป็นไปได้อย่างมากว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะชะลอตัวลงในปี 2555
นายหวูกล่าวว่า นโยบายการคลังเชิงรุกและนโยบายการเงินแบบระมัดระวังจะช่วยให้การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศปีนี้เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ และการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในช่วง 3-5% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจนั้นถือเป็นเรื่องที่จำเป็น
ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของจีนได้ออกมาส่งสัญญาณให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะเงินเฟ้อสูงในระยะยาว
โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ย. นายจู หมิน รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวในการประชุมซัมเมอร์ ดาวอสว่า เงินเฟ้อของจีนจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปในระยะยาว
นายจูแนะนำว่า จีนควรจะใช้นโยบายการเงินที่ค่อนข้างเข้มงวดต่อไป และออกนโยบายใหม่ๆสำหรับแก้ปัญหาเงินเฟ้อและอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นเป้าหมายในระยะยาว
เขากล่าวด้วยว่า สาเหตุที่จีนจะยังคงเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อในระยะยาวนั้น เป็นเพราะสภาพคล่องทั่วโลกที่มีอยู่มากมาย ราคาทรัพยากรที่อยู่ในระดับสูงซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ รวมทั้งต้นทุนด้านแรงงานและที่ดินที่สูงขึ้นในตลาดภายในประเทศ
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน (CPI) ขยายตัว 6.2% เมื่อเดือนส.ค. ลดลงจากระดับ 6.5% ในเดือนก.ค. ส่งผลให้ตลาดมองว่า เงินเฟ้อของประเทศได้เคลื่อนตัวมาถึงจุดเปลี่ยนแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายจูกล่าวว่า ข้อมูลเหล่านี้เพียงแค่แสดงให้เห็นว่า เงินเฟ้อของจีนเริ่มมีเสถียรภาพขึ้นเท่านั้น
ข้อมูลสถิติอย่างเป็นทางการชี้ว่า ราคาเนื้อสุกรเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ดัชนีราคาผู้บริโภคสูงขึ้น โดยราคาเนื้อสุกรเดือนส.ค.พุ่งสูงขึ้นถึง 45.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี
แม้ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนให้เกษตรกรขึ้นราคาสุกรและเนื้อสุกร และราคาเนื้อสุกรเริ่มมีเสถียรภาพ แต่ราคาผู้บริโภคก็ยังดีดตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีนแสดงให้เห็นว่า ราคาดีดตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 4 ก.ย. ซึ่งหมายความว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อของจีนยังไม่ปรับตัวลงเท่าไรนัก
นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า กล่าวในระหว่างการเดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนชุมชน ตลาด และศูนย์บริการจ้างงานในเมืองต้าเหลียน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศว่า รัฐบาลจะยังคงดูแลให้ราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นนั้นมีเสถียรภาพ รวมทั้งรับประกันเรื่องอุปทานเนื้อสัตว์ ผัก และไข่ในตลาด
การแสดงความเห็นของนายกฯจีนในข้างต้นนี้บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินที่เข้มงวดในระยะใกล้นี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน