ศูนย์วิจัยของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการนำเข้า และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ถือเป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ธนาคารกลางอินเดียเข้ามาแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราให้มากขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินรูปีของอินเดียร่วงลง 9.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อไม่นานมานี้ จากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 43.86 ดอลลาร์สหรัฐซึ่งเกิดขึ้นในเดือนก.ค. นอกจากนี้ ค่าเงินรูปียังร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในเอเชีย ยกเว้นเงินเยนของญี่ปุ่น
รายงานของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดเตือนว่า หากธนาคารกลางอินเดียยังไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนและปล่อยให้สกุลเงินรูปีมีความผันผวนมากขึ้น ก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง
รายงานฉบับดังกล่าวยังระบุด้วยว่า “การที่ธนาคารกลางอินเดียไม่ดำเนินการใดๆในขณะที่นักลงทุนสถาบันต่างชาติได้ถอนการลงทุนออกจากอินเดียและอินเดียต้องเผชิญกับภาวะขาดดุลการค้านั้น จะยิ่งทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นลบต่อค่าเงินรูปี"
อย่างไรก็ตาม สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดมองว่า การแทรกแซงตลาดครั้งเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะควบคุมความเสี่ยง เนื่องจากความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเผชิญกับภาวะขาลงยังมีอยู่มาก
สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดว่า ความเสี่ยงที่ลุกลามในวงกว้างซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความวิตกกังลเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการเงินนั้น จะกระตุ้นให้ธนาคารกลางอินเดียปรับเปลี่ยนท่าทีด้านนโยบายในที่สุด