นายอรุณ เลิศวิไลย์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. เปิดรับฝากเงิน“โครงการ 2"เพื่อช่วยเหลือข้าราชการ พนักงานองค์การของรัฐ หรือพนักงานหน่วยงานอื่นๆ ที่เกษียณอายุตามปกติหรือเกษียณอายุก่อนกำหนดในปี 2554 และบุคคลทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป รวมถึงทดแทนเงินฝากในโครงการเงินออมเกษียณเพิ่มสุข ของ ธ.ก.ส. ที่กำลังจะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายนนี้
สำหรับเงื่อนไขการฝากเงินกับ “โครงการเงินออมเกษียณเพิ่มสุข 2" ต้องฝากเงินไม่น้อยกว่า 100,000 บาท สูงสุดไม่เกินบัญชีละ 10 ล้านบาท สามารถเปิดบัญชีได้คนละ 1 บัญชี โดยลูกค้าโครงการเกษียณเพิ่มสุขเดิม สามารถต่อโครงการได้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีเล่มใหม่ มีระยะเวลาการฝาก 4 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 — 30 กันยายน 2558 อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ปีที่ 1 ร้อยละ 3.70 ต่อปี ปีที่ 2 ร้อยละ 3.90 ต่อปี ปีที่ 3 ร้อยละ 4.00 ต่อปี และปีที่ 4 ร้อยละ 4.40-5.00 ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.075 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยเป็นรายเดือนโดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เพื่อให้ผู้ฝากสามารถเบิกถอนไปใช้จ่ายได้อย่างสะดวก และดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษี เริ่มเปิดรับฝากตั้งแต่ 3 ตุลาคม — 30พฤศจิกายน 2554 นี้เท่านั้น
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ตั้งเป้าหมายการรับฝาก 20,000 ล้านบาท กรณีมีผู้สนใจร่วมฝากเงินจำนวนมากและครบตามเป้าหมาย ธ.ก.ส. จะปิดการรับฝากทันที หากผู้ฝากถอนเงินหรือปิดบัญชีก่อนครบกำหนดระยะเวลาหรือก่อนวันที่ 30 กันยายน 2558 ธ.ก.ส. จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินร้อยละ 1 ของต้นเงินที่ถอน แต่ไม่น้อยกว่าครั้งละ 500 บาท ยกเว้นการถอนเงินฝากกรณีผู้ฝากเสียชีวิต กรณีที่ผู้ฝากถอนเงินฝากแล้วมียอดเงินฝากคงเหลือต่ำกว่า 100,000 บาท ธนาคารจะคัดบัญชีออกจากโครงการเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษปกติของธนาคาร
นายอรุณกล่าวอีกว่า ธ.ก.ส. ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อดูแลกลุ่มลูกค้าผู้เกษียณอายุให้ได้รับผลตอบแทนในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมเพื่อนำเงินเหล่านี้มาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมาแล้วหลายโครงการเช่น เงินออมเกษียณเพิ่มสุข เงินออมเกษียณเปี่ยมสุข2 เงินออมเกษียณมั่งคั่ง และเงินออมเกษียณ สุขใจ ซึ่งทุกโครงการได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้เกษียณ โดยมียอดเงินฝากเฉพาะลูกค้าในกลุ่มดังกล่าว จำนวนถึง 80,684 ล้านบาท ส่วนยอดเงินฝากทั้งระบบของ ธ.ก.ส. ขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 716,669 ล้านบาท