นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ กล่าวกับบรรดานักการเมืองในแคนาดาว่า เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญวิกฤตหนี้ มากกว่าภาวะถดถอย
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาสามัญซึ่งใช้เวลาประมาณ 25 นาทีนั้น นายคาเมรอนเตือนว่า ผลกระทบจากวิกฤตการเงินในปี 2551 ยังคงอยู่ ซึ่งเห็นได้จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น อยู่ในภาวะชะงักงัน ขณะเดียวกันราคาสินค้าโภคภัณฑ์รวมถึงน้ำมันและอาหารที่พุ่งสูง ก็ฉุดการขยายตัวของเศรษฐกิจ
"นี่ไม่ใช่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นตามวงจร แต่เป็นวิกฤตหนี้" นายคาเมรอนกล่าว โดยระบุว่าผู้บริโภคและรัฐบาลนานาประเทศมีหนี้มากเกินไป จนการใช้มาตรการแก้ไขเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมอย่างการกระตุ้นการใช้จ่ายก็ยังไม่ได้ผล
นายคาเมรอนกล่าวว่า ทางเดียวที่จะแก้ปัญหาได้คือ การลดการใช้จ่ายอย่างที่รัฐบาลอังกฤษเริ่มทำมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
นายคาเมรอนกล่าวว่า กลุ่มยูโรโซนต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะ "ยูโรโซนกำลังเผชิญปัญหาใหญ่มากจนเริ่มส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเศรษฐกิจโลกแล้ว ดังนั้นประเทศยูโรโซนต้องจัดการกับวิกฤตนี้โดยเร็ว"
นอกจากนั้น นายคาเมรอนยังต้องการให้บรรดาผู้นำกลุ่มจี20 ดำเนินการอย่างเด็ดขาดก่อนที่จะประชุมร่วมกันที่ฝรั่งเศสในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเขาเรียกร้องให้ผู้นำจี20 ลดตัวเลขหนี้ เปิดเสรีการค้า และลดความเข้มงวดในการทำธุรกิจ
"การเอาแต่ผัดวันประกันพรุ่งไม่ช่วยอะไร มีแต่จะทำให้ปัญหาเลวร้ายลงไปอีก" นายคาเมรอนกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน