ผู้เข้าร่วมการประชุมธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประจำปี 2554 ที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ขณะนี้ ต่างเห็นพ้องกันว่า ประเทศกำลังพัฒนามีส่วนผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง
โรเบิร์ต โซลลิค ประธานธนาคารโลกกล่าวในการแถลงข่าวเปิดการประชุมประจำปีว่า "ประเทศกำลังพัฒนาถือเป็นจุดเด่นของเศรษฐกิจโลกจวบจนกระทั่งระยะนี้"
นายโซลลิคระบุว่า "ประเทศกำลังพัฒนามีส่วนช่วยเศรษฐกิจโลกเติบโตประมาณครึ่งหนึ่ง ในขณะที่ยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐ กำลังประสบกับปัญหาหนี้สินจำนวนมากและการว่างงานสูง"
นายโซลลิคกล่าวต่อไปว่า ประเทศกำลังพัฒนามีบทบาทที่สำคัญในการสร้างเสถียรภาพความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจโลก และจะยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต
ประเทศกำลังพัฒนา ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถสลัดตัวออกจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำได้ แต่ก็อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่ามาก เนื่องจากมีสถานะการคลังที่ดีกว่า มีกฎระเบียบที่รัดกุม และมีการออมค่อนข้างสูง
อันที่จริง ประเทศกำลังพัฒนากำลังแสดงความรับผิดชอบมากขึ้นและพร้อมที่จะแสดงบทบาทในเชิงสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง
รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มตลาดเกิดใหม่ 5 ประเทศ ซึ่งได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ (BRICS) ระบุในแถลงการณ์ร่วมภายหลังการประชุมประจำปีของไอเอ็มเอฟและธนาคารโลกเมื่อวานนี้ว่า "การรักษาความร่วมมือและการประสานงานนโยบายระหว่างประเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น"
นอกจากนี้ กลุ่มประเทศ BRICS ยังระบุว่า หากจำเป็น ทางกลุ่มก็พร้อมพิจารณาให้การสนับสนุนผ่านไอเอ็มเอฟหรือสถาบันการเงินระหว่างประเทศอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาที่ท้าทายต่อเสถียรภาพการเงินโลกในปัจจุบัน โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละประเทศ
บทวิเคราะห์โดย หลิว หลี่นา และเจียง ซูเฟิง จากสำนักข่าวซินหัว