สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศสรายงานว่า ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนก.ย.ร่วงลง ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจโลกที่เติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงและวิกฤตหนี้ในยุโรปจะยิ่งบั่นทอนความต้องการลงไปอีก
ความเชื่อมั่นของบรรดาผู้บริหารโรงงานลดลงมาอยู่ที่ 99 จากเดิม 102 ในเดือนส.ค. ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคหล่นจาก 82 ในเดือนส.ค.มาอยู่ที่ 80 ในเดือนส.ค.
เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสได้ปรับลดคาดการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจลง ซึ่งเท่ากับเป็นสถานการณ์ที่บีบให้ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีย์ เพิ่มการจัดเก็บภาษีและกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย เพื่อให้ประเทศรักษาระดับขาดดุลงบประมาณได้ตามเป้า
ขณะเดียวกัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนลงจาก 2% มาอยู่ที่ 1.6% ในปีนี้ และจาก 1.7% ลงมาอยู่ที่ 1.1% สำหรับปีหน้า นอกจากนี้ยังปรับการประเมินของฝรั่งเศสลงมาด้วย โดยคาดว่า เศรษฐกิจจะมีการขยายตัว 1.7% ในปีนี้ และ 1.4% ในปี 2555
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา นายซาร์โกซีย์ประกาศเพิ่มการจัดเก็บภาษีขึ้นอีก 1.2 หมื่นล้านยูโร หลังจากที่มีข่าวลือสะพัดว่า วิกฤตหนี้ในยูโรโซนอาจจะส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศส ซึ่งในปัจจุบันอยู่อันดับสูงสุด ขณะที่รัฐบาลปรับคาดการณ์การขยายตัวลงมาอยู่ที่ 1.75% ทั้งในปีนี้และปีหน้า