ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่ง หลังศก.อ่อนแอหนุนนักลงทุนแห่ถือดอลล์

ข่าวต่างประเทศ Saturday September 24, 2011 08:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมองว่าดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังเผชิญกับภาวะเปราะบาง โดยเฉพาะเมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับช่วงขาลง ขณะที่ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากยูโรร่วงลงอย่างหนักอันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้ยุโรป

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.59% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.720 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 76.270 เยน และอ่อนตัวลง 0.46% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9040 ฟรังค์ จากระดับ 0.9082 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.33% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3505 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3460 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.89% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5472 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5336 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.47% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9771 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9725 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.51% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7752 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7792 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อความปลอดภัย โดยในการประชุมครั้งล่าสุดนั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า มีความเสี่ยงหลายด้านที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับช่วงขาลง ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวนั้นรวมถึงความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลก

นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่ามาตรการ Operation Twist หรือการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 6-30 ปีวงเงิน 4 แสนล้านดอลลาร์และขายพันธบัตรอายุ 3 ปีหรือต่ำกว่าออกมาในเวลาเดียวกันและในวงเงินที่เท่ากันนั้น จะไม่สามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศได้

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นทันทีที่เฟดตัดสินใจใช้มาตรการ Operation Twist แทนมาตรการ QE3 เพราะการใช้ QE3 จะทำให้สภาพคล่องในระบบสูงขึ้น และจะฉุดมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากยูโรร่วงลงอย่างหนักอันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้ยุโรป อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์กล่าวว่าสกุลเงินยูโรยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าปัญหาหนี้กรีซอาจจะลุกลามไปทั่วยุโรป หลังจากนายอีแวนเจลอส เวนิเซลอส รมว.คลังกรีซยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ถึง 50% ที่ 1 ใน 3 แนวทางการแก้ปัญหาของกรีซจะใช้วิธี "haircut" หรือการปรับลดมูลค่าหลักทรัพย์ที่นำมาใช้ค้ำประกันการกู้ยืมสำหรับผู้ที่ถือพันธบัตรของกรีซ ซึ่งโดยหลักการแล้ว การดำเนินการดังกล่าวก็เท่ากับว่ากรีซเข้าข่ายผิดนัดชำระหนี้แบบหนึ่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ