นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยถึงการเข้าร่วมการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศของนายธีระชัย ธีรนาถนรานุบาล รมว.คลัง ระหว่างวันที่ 22-24 ก.ย.ว่า รมว.คลังได้เข้ารับหน้าที่เป็นประธานการประชุมร่วมของผู้ว่าการประเทศสมาชิกกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(Southeast Asian Group หรือ กลุ่ม SEA)ของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 13 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา ฟิจิ อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า เนปาล ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย ตองก้า และเวียดนาม
ประเด็นที่สำคัญในการประชุม คือ การหารือเรื่องภาพรวมเศรษฐกิจและผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่อเศรษฐกิจเอเชีย โดยกล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ของกลุ่มประเทศยุโรปซึ่งมีผลกระทบมาถึงเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ อย่างไรก็ดี ประเทศในเอเชียยังคงมีการเจริญเติบโตที่แข็งแกร่ง และที่ประชุมได้หารือเรื่องการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานและผลกระทบทางสังคมเศรษฐกิจต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งยังมีประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญ เช่น การเข้าถึงสาธารณูโภคพื้นฐานได้ การย้ายถิ่นฐานเข้าสู่เมืองใหญ่ ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม และความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เตรียมการสำหรับการประชุมคณะกรรมการการเงินของ IMF (IMFC) และคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลก ซี่งในปีนี้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นตัวแทนของกลุ่ม SEA เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการการเงินของ IMF และรมว.คลังของไทยจะเป็นตัวแทนของกลุ่ม SEA เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลก ครั้งที่ 88
ด้านนายธีระชัย กล่าวว่า ที่ประชุม World Bank และ IMF แสดงความเป็นห่วงว่าปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกจำเป็นต้องปรับนโยบายเศรษฐกิจโดยให้ความสำคัญกับการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้มากขึ้นเพื่อลดความผันผวน
"ผมได้เสนอให้ทุกประเทศไม่ใช่เฉพาะประเทศที่กำลังประสบปัญหาสนับสนุนการจ้างงานให้มากขึ้น เพราะการจ้างงานจะส่งผลกับการเพิ่มกำลังซื้อระหว่างประเทศ และต้องระวังปัญหาการกีดกันทางการค้าที่จะมีมากขึ้นด้วย"