ตลาดหุ้นไทยดีดตัวกลับมายืนเหนือ 900 จุดได้แล้วในช่วงกลางภาคบ่าย หลังจากดิ่งหนักไปลึกถึงกว่า 9% และเกิดเหตุขัดข้องในช่วงเปิดการซื้อขายต้นภาคบ่ายที่ทำให้หลายฝ่ายเข้าใจว่าตลาดหลักทรัพย์ใช้มาตรการหยุดการซื้อขายชั่วคราว(Circuit Breaker) โบรกเกอร์คาดนักลงทุนกลับเข้าซื้อหลังลงลึกเกินพื้นฐาน ขณะที่ระบุข่าวสะพัดเงินไหลจากดูไบเข้าพยุงตลาดฯ อีกกระแสเผยลือหวั่นตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามช็อตเซลล์
เมื่อเวลา 15.13 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 902.34 จุด ลดลง 55.82 จุด (-5.83%) ซึ่งดีดตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดที่ลงไปแตะ 867.86 จุด
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยขณะนี้เริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาหลังจากเปิดทำการภาคบ่ายดัชนีฯปรับตัวลงไปกว่า 9% มองว่านักลงทุนทั้งรายย่อย, รายใหญ่ และนักลงทุนต่างประเทศ เริ่มกลับเข้ามาซื้อหุ้นอีกครั้ง หลังราคาปรับตัวลงแรงเกินกว่าเหตุตลอดการซื้อขายในช่วงที่ผ่านมา
"ในช่วงเช้าที่ลงมาแรง ต่อเนื่องมาจนเปิดตลาดฯช่วงบ่าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ เพราะฉะนั้นราคาหุ้นหลายตัวที่ลงมาในระดับราคาที่ถ้ามองในเชิงพื้นฐานแล้วน่าสนใจ ก็จึงเป็นลักษณะของการซื้อกลับ และช่วงเช้าที่ลงแรงส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของการ forced sell ด้วย ซึ่งเมื่อลงไปช่วงหนึ่งก็จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาก็คงมีทั้งนักลงทุนรายย่อยและรายใหญ่ด้วย รวมถึงนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งก็ยังไม่ได้มีข่าวอะไรเข้ามาเป็นพิเศษ"นายสมชาย กล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ กล่าวว่า มีข่าวสะพัดในห้องค้าหลักทรัพย์ว่าในช่วงที่ระบบการเทรดของตลาดหลักทรัพย์ขัดข้องราว 6 นาทีช่วงที่ดัชนี SET ลงลึกไปกว่า 9.42% พบว่ามีเม็ดเงินจำนวนหนึ่งไหลเข้ามาในตลาดหุ้น เชื่อว่าเป็นเม็ดเงินจากทางแหล่งทุนใหญ่ในดูไบ ทำให้มูลค่าการซื้อขายกระโดดขึ้นมา ขณะที่แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์อีกรายระบุว่ามีกระแสช่าวลือที่ว่าตลาดหลักทรัพย์อาจจะใช้มาตรการห้ามทำช็อตเซลล์ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนอย่างหนัก
ล่าสุด ดัชนี SET มาอยู่ที่ 910.44 จุด ลดลง 47.72 จุด (-4.98%) ประมาณ 3.9 หมื่นล้านบาท เมื่อเวลา 15.41 น.