นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน เปิดภายหลังการหารือกับสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เพื่อหารือถึงปริมาณก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์(เอ็นจีวี)ที่มีปัญหาการขาดแคลนว่า รัฐบาลยังคงมีนโยบายส่งเสริมการใช้ก๊าซเอ็นจีวีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในบางพื้นที่จะมีปัญหาการขาดแคลนบ้าง แต่ได้เร่งให้ บมจ.ปตท.(PTT)ขยายสถานีบริการให้เพียงพอต่อความต้องการ
ส่วนเรื่องราคาเอ็นจีวีจะมีการหารือในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาทั้งระบบให้มีความเหมาะสม แต่ยอมรับว่าอาจจะให้ ปตท.ปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีบ้าง เพื่อให้คุ้มค่าต่อการลงทุนในการขยายสถานีบริการเอ็นจีวีใหม่ โดยจากเดิมตั้งเป้าจะมี 480-500 แห่งในสิ้นปีนี้ แต่จากปัญหาดังกล่าวอาจจะต้องเลื่อนออกไปเป็นต้นปีหน้า
"วันที่ 30 ก.ย.จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อหารือถึงเรื่องการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยเฉพาะการตรึงราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือแอลพีจี และเอ็นจีวี ที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนนี้ว่าจะมีนโยบายอย่างไรต่อไป" รมว.พลังงาน กล่าว
ด้านนายยู เจียนยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สหพันธ์ฯ เป็นห่วงว่าในช่วงเดือนพ.ย.นี้ จะเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้เอ็นจีวีสูง เพราะจะมีการขนส่งมาก ทำให้อาจจะเกิดปัญหาการขาดแคลนเอ็นจีวีได้ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งขยายสถานีบริการให้ครอบคลุม จากปัจจุบันจะมีอยู่ตามแนวท่อเท่านั้นไปในพื้นที่ห่างไกลมากขึ้น
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีนั้น ผู้ขนส่งสามารถยอมรับได้ แต่จะต้องมีการปรับราคาค่าขนส่งเพิ่มทันที หากขึ้นประมาณ 2 บาท/กก. ก็จะขึ้นประมาณ 3-5% ของค่าขนส่งทั้งหมด ปัจจุบันมีรถบรรทุกและรถโดยสารขนาดใหญ่ที่ใช้เอ็นจีวี ประมาณ 15,000 คัน
นายเติมชัย บุนนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า ขณะนี้มีปัญหาความต้องการใช้เอ็นจีวีเพิ่มสูงขึ้นมาก จากต้นปีมีการใช้ประมาณ 6,000 ตัน/วัน ขณะนี้เพิ่มเป็น 7,000 ตัน/วัน เพราะมีรถยนต์ที่ใช้ซีเอ็นจีเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นวันละ 300 คัน ทำให้ขยายสถานีบริการไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้
รมว.พลังงาน ยังกล่าวถึงการเตรียมเดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 27-28 ก.ย.ว่า จะมีการเจรจาหลายเรื่อง โดยเฉพาะแหล่งมอนทาร่า ของ บมจ.ปตท.สผ. ที่มีปัญหาเรื่องน้ำมันรั่วไหลลงทะเล เพื่อหาทางออกที่พอใจทั้งสองฝ่าย เพราะประเทศไทยไม่ต้องการจะจ่ายเงินจำนวนมากดังนั้นจึงต้องมีการเจรจากัน และจะมีการหารือการลงทุนในแหล่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลเอ็นจี) เพื่อเป็นการสำรองแหล่งก๊าซฯ ให้กับประเทศไทยในอนาคตต่อไป
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้(27 ก.ย.) กระทรวงพลังงานจะนำเสนอแผนแม่บทพลังงานใหม่ รวมถึงการโยกย้ายข้าราชการสังกัดกระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ด้วย