World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday September 27, 2011 06:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2.5% เมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรปกำลังหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดและศักยภาพในการปล่อยกู้ของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และข่าวที่ว่ารัฐบาลเยอรมนีเรียกร้องให้ภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการรับภาระหนี้ของกรีซมากขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่าผู้นำยุโรปจะสามารถควบคุมการลุกลามของปัญหาหนี้สาธารณะได้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 272.38 จุด หรือ 2.53% ปิดที่ 11,043.86 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 26.52 จุด หรือ 2.33% ปิดที่ 1,162.95 จุด ดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 33.46 จุด หรือ 1.35% ปิดที่ 2,516.69 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรปกำลังหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ดีดตัวขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.49% ปิดที่ 80.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอีกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุนในตลาดอื่นๆ รวมถึงตลาดหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าผู้บริหารตลาดทองคำล่วงหน้า COMEX ประกาศขึ้นค่ามาร์จิ้นสัญญาทองคำ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 45 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 1,594.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.เป็นต้นมา

-- ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) หลังจากสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรปกำลังหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดและศักยภาพในการปล่อยกู้ของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลงเกินคาดในเดือนส.ค.

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3497 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3496 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.54% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5550 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5466 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.21% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.420 เยน จากระดับ 76.580 เยน และดิ่งลง 0.31% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9029 ฟรังค์ จากระดับ 0.9057 ฟรังค์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9803 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9778 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.7781 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7753 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าผู้นำยุโรปจะใช้มาตรการรับมือกับปัญหาหนี้ยุโรป

ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 22.56 จุด หรือ 0.5% ปิดที่ 5,089.37 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ