เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นของอิตาลีแสดงท่าทีไม่พอใจต่อกรณีที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหน่วยงานในเมืองและจังหวัดต่างๆ 11 แห่งของอิตาลี โดยระบุถึงความเชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่นระหว่างภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและการดำเนินงานที่ปวกเปียกของคณะรัฐมนตรี
บรรดานายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาระดับท้องถิ่นย้ำว่าการลดอันดับความน่าเชื่อถือคือ "ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ" หลังจากที่ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถืออิตาลีลง 1 ขั้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากความกังวลที่ว่ารัฐบาลขาดความน่าเชื่อถือและไม่มีความสามารถในการรับมือกับความท้าทายของปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคทั้งภายในและภายนอกประเทศ
หน่วยงานระดับท้องถิ่นส่วนใหญ่ที่ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือนั้นอยู่ทางตอนเหนือของประเทศและมีสถานะร่ำรวยกว่า โดยเมืองที่ถูกปรับลดความน่าเชื่อถือจาก A+ เป็น A นั้น ประกอบด้วยเมืองมิลาน โบโลนา เจนัว โรม และอีก 6 แคว้น ได้แก่ ซิซิลี อัมเบรีย ลิกัวเรีย และเอมิเลีย-โรแมกนา
หน่วยงานในพื้นที่อื่นๆที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ต้องตรวจสอบอย่างใกล้ชิดประกอบด้วยหน่วยงานในเมืองตูริน ซึ่งมีแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือลดลงจากระดับมีเสถียรภาพมาเป็นเชิงลบ
"นี่เป็นส่วนหนึ่งของผลกระทบเชิงลบจากการปรับลดอันดับเครดิตอิตาลี ซึ่งส่งผลสะท้อนต่อหน่วยงานและบริษัทในระดับท้องถิ่น" นายบรูโน ทาแบคซี สมาชิกสภางบประมาณเมืองมิลานกล่าว
ด้านนายแอนโตนิโอ โรซาติ สมาชิกสภาเศรษฐกิจประจำกรุงโรม กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของ S&P นั้นเชื่อมโยงกับแนวโน้มเศรษฐกิจเชิงลบในแง่ของภาพรวมมากกว่าที่จะเฉพาะเจาะลงในแคว้นที่ภาวะทางเศรษฐกิจย่ำแย่
"อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้าของอิตาลีทำให้เรารู้สึกวิตกกังวลอย่างมากและเราต้องการให้รัฐบาลกลางผ่อนคลายข้อตกลงเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เข้มงวดซึ่งทำให้เราไม่สามารถดึงงบประมาณมูลค่า 250 ล้านยูโรไปลงทุนได้"