นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มอบหมายให้กระทรวงการคลังกลับไปทบทวนมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีบ้านหลังแรกเสนอให้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาในสัปดาห์หน้า โดยกระทรวงการคลังจัดทำเป็นแพคเกจมาตรการด้านต่างๆ ประกอบกัน ได้แก่ การลดหย่อนภาษีที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมทั้งการให้สินเชื่อดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 3 ปี ดำเนินการโดยธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) สำหรับบ้านที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เป็นต้น
มาตรการดังกล่าวจะเป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากเมื่อวันที่ 20 ก.ย.54 ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีบ้านหลังแรก โดยกำหนดราคาบ้านไว้หลังละไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งประชาชนสามารถนำมาทยอยขอคืนเงินในการคำนวณภาษี 10% ภายใน 5 ปี เริ่มมาตรการตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.54-31 ธ.ค.55
ทั้งนี้ จะมีการปรับหลักเกณฑ์ให้ครอบคลุมไปถึงบ้านมือสองด้วย จากเดิมที่เป็นเฉพาะบ้านสร้างใหม่เท่านั้น แต่ไม่รวมไปถึงบ้านที่ปลูกสร้างเอง ขณะที่รัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายเงินชดเชยให้กับ ธอส.จำนวน 3 ใน 4 ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หรือราวปีละ 300 ล้านบาท
ด้านนายบุญทรง เตรียาภิรมย์ รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาออกประกาศมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีบ้านหลังแรก ได้แก่ การนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีเงินได้ การยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดจำนอง การยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ เพื่อเน้นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
"ผมเข้าใจดีว่าประชาชนอาจจะสับสน แต่เราจะมีการวางแผนใหม่ โดยนำเสนอนโยบายเป็นแพ็คเกจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้พิจารณา เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง"นายบุญทรง กล่าว
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายบ้านหลังแรกได้มีการอนุมัติให้มีการเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ของมาตรการต่าง ๆ และยืนยันว่าการดำเนินนโยบายบ้านหลังแรกไม่ได้เอื้อให้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่ง เพราะผู้ที่ได้ประโยชน์โดยตรง คือ ผู้ซื้อไม่ใช่ผู้ขาย โดยเป็นการช่วยลดภาระทางด้านภาษี ซึ่งก็จะเป็นบ้านในราคาที่ต่ำกว่า 5 ล้านบาทลงมาเท่านั้น
"นโยบายนี้เป็นการให้ประโยชน์กับผู้ซื้อบ้านจริงๆ ไม่ได้ให้ประโยชน์กับผู้ประกอบการ ดังนั้นนโยบายนี้ไม่ได้เอื้อให้กับคนใดคนหนึ่งอยู่แล้ว เรามองในแง่ความเสมอภาค ไม่ได้เอื้อให้กับรายใดรายหนึ่ง" นายกฯ กล่าว