ผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจญี่ปุ่นมีแววขยายตัวขึ้นจากการฟื้นฟูปท.หลังแผ่นดินไหว

ผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจล่าสุดของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น ท่ามกลางการฟื้นตัวของผลผลิตอุตสาหกรรมที่ทรุดตัวลงอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

สำนักข่าวเกียวโดเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ภาคเอกชนซึ่งคาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่จะอยู่ที่อัตราเฉลี่ย +2 ในเดือนก.ย. ซึ่งดีดตัวขึ้นจากระดับ -9 ในเดือนมิ.ย. และคาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนอกกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ +2 จากระดับ -5

ค่าดัชนีดังกล่าวคำนวณโดยหักลบสัดส่วนของบริษัทที่รายงานภาวะย่ำแย่ด้านปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจออกจากบริษัทที่เล็งเห็นถึงการฟื้นตัว ทั้งนี้ บีโอเจมีกำหนดเปิดเผยผลสำรวจทังกันในวันจันทร์หน้า

นักเศรษฐศาสตร์ที่ทำการสำรวจยังคาดการณ์ด้วยว่า บริษัทรายใหญ่ทั้งในและนอกภาคการผลิตจะเพิ่มการใช้จ่ายเงินทุนขึ้นอีกเฉลี่ย 4.2% ในปีงบการเงินปัจจุบันที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค.ปีหน้าจากปีก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากตัวเลขในผลสำรวจทังกันเดือนมิ.ย.ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 ก.ค.

การคาดการณ์ในแง่บวกสะท้อนถึงภาคการผลิตที่ฟื้นตัวจากผลของความพยายามในภาคเอกชนที่จะฟื้นฟูระบบห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญทั่วประเทศที่หยุดชะงักไปเพราะเหตุภัยพิบัติเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ทั้งในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้ผลิตอุปกรณ์ไอที

นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจฟื้นตัวเช่นกันจากการขยายตัวด้านการบริโภคภาคเอกชน โดยนักเศรษฐศาสตร์บางรายระบุถึงการซื้อเครื่องใช้ประหยัดพลังงานเพิ่มมากขึ้นในภาคครัวเรือนในหลายพื้นที่ของประเทศอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ แต่มีบางส่วนยังคงกังขาเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องด้านปัจจัยแวดล้อมในระยะใกล้นี้ว่าจะออกมาในรูปแบบใด

ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซาในต่างประเทศและการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อไม่นานมานี้อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นทางธุรกิจ แต่ขณะเดียวกันก็มองว่าอุปสงค์ภายในประเทศจะยังคงขยายตัวจากการเร่งใช้จ่ายเงินฉุกเฉินในโครงการฟื้นฟูประเทศ