สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในทิศทางของเศรษฐกิจยุโรปมากขึ้นหลังจากมีรายงานว่านำยุโรปกำลังหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดและศักยภาพด้านการปล่อยกู้ของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมรัฐสภาเยอรมนีที่จะลงมติเรื่องการขยายกองทุน EFSF ในวันพฤหัสบดีนี้ และจับตาดูการรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้เช่นกัน
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.59% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3618 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3538 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.46% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5635 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5564 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.48% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.710 เยน จากระดับ 76.340 เยน แต่ร่วงลง 0.54% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8957 ฟรังค์ จากระดับ 0.9006 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9944 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9845 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.35% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7906 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7801 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของยูโรโซนมากขึ้น หลังจากสถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า ผู้นำยุโรปกำลังหารือกันเกี่ยวกับแผนการเพิ่มขนาดและเพิ่มสิทธิอำนาจให้กับกองทุน EFSF ซึ่งปัจจุบันมีวงเงิน 4.40 แสนล้านยูโร (5.95 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีการคาดการณ์ว่าผู้นำยุโรปอาจจะเพิ่มเงินทุนให้แก่ EFSF เป็น 1-2 ล้านล้านยูโร
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้แรงหนุนหลังจาก นางแองเกลาร์ แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีแถลงกับผู้สื่อข่าวที่กรุงเบอร์ลินร่วมกับนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีของกรีซเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาประเทศไทยว่า "เยอรมนีพร้อมที่จะดำเนินทุกด้านที่จำเป็นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับกรีซ และจะช่วยให้กรีซยังคงเป็นสมาชิกในกลุ่มยูโรโซนต่อไป"
นักลงทุนจับตาดูการประชุมรัฐสภาเยอรมนีที่จะลงมติเรื่องการขยายกองทุน EFSF ในวันพฤหัสบดีนี้ อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่ารมว.คลังเยอรมนีและรมว.เศรษฐกิจของฝรั่งเศส ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มขนาดของกองทุน EFSF
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.อยู่ที่ระดับ 45.4 จุด ซึ่งแม้ว่าจะสูงกว่าเดือนส.ค.ที่ระดับ 44.5 จุด แต่ก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 46 จุด ส่วนราคาบ้านประจำเดือนก.ค.ใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ร่วงลง 4.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและรายได้ส่วนบุคคลเดือนส.ค.