นางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเปิดเผยว่า เยอรมนีต้องการให้กรีซให้เป็นประเทศที่แข็งแกร่งในยูโรโซน พร้อมกับยืนยันว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนกรีซให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ นางแมร์เคลยังเรียกร้องให้รัฐบาลกรีซรับผิดชอบในเรื่องการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างเคร่งครัด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายแมร์เคลแถลงกับผู้สื่อข่าวที่กรุงเบอร์ลินร่วมกับนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีของกรีซเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาประเทศไทยว่า "เยอรมนีพร้อมที่จะดำเนินทุกด้านที่จำเป็นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับกรีซ และจะช่วยให้กรีซยังคงเป็นสมาชิกในกลุ่มยูโรโซนต่อไป"
นางแมร์เคลเรียกร้องให้กรีซรับผิดชอบในเรื่องการลดงบประมาณและการปฏิรูปด้านการเงินอย่างเคร่งครัด โดยกล่าวว่า "ทุกประเทศในยูโรโซนมีการเชื่อมต่อกันมากที่สุดในขณะนี้ หากประเทศใดประเทศหนึ่งอ่อนแอ ประเทศอื่นๆก็จะอ่อนแอตามไปด้วย และนี่จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศสมาชิกยูโรโซน"
ทั้งนี้ นางแมร์เคลกล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือกรีซครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับการประเมินของกลุ่ม Troika ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี)ฅ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) โดยเจ้าหน้าที่กลุ่ม Troika จะประเมินความคืบหน้าด้านการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซในเร็วๆนี้
ด้านนายกรัฐมนตรีกรีซกล่าวในระหว่างแถลงข่าวว่า สำหรับกรีซแล้ว เงินช่วยเหลืองวดใหม่จากกลุ่มพันธมิตรในยุโรปมีความสำคัญอย่างมาก และกรีซมีความมุ่งมั่นที่จะรับผิดชอบในการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างเคร่งครัด แม้จะต้องใช้เวลาหลายปีในการแก้ปัญหาหนี้ในประเทศก็ตาม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของผู้นำเยอรมนีและกรีซมีขึ้นก่อนที่รัฐสภากรีซจะลงมติเรื่องการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งปัจจุบันมีวงเงิน 4.40 แสนล้านยูโร (5.95 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) หลังจากผู้นำยุโรปมีมติเห็นชอบในหลักการให้เพิ่มขนาดของกองทุน EFSF ในการประชุมยอดเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา