อีสานโพล เผยลูกจ้างไม่เห็นด้วยหากขึ้นค่าแรงทันทีแล้วกระทบสวัสดิการ-ปลดคนงาน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 28, 2011 13:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน(ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง “ค่าแรง 300 บาท กับ ลูกจ้างอีสาน พบว่า อัตราค่าแรงที่ลูกจ้างรายวันได้รับในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ต่ำกว่า 180 บาท/วัน ร้อยละ 37.7 รองลงมาได้ค่าแรง 180-199 บาท/วัน ร้อยละ 28.1 ได้ค่าแรง 250 บาทขึ้นไป/วัน ร้อยละ 20.0 และได้แรง 200-249 บาท/วัน ร้อยละ 14.2

เมื่อถามต่อว่าหากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/วัน ไม่ดำเนินการในทันทีลูกจ้างจะได้รับผลกระทบในระดับใด ลูกจ้างส่วนใหญ่ร้อยละ 39.7 ตอบว่าได้รับผลกระทบในระดับปานกลาง รองลงมาไม่ได้รับผลกระทบ มีร้อยละ 21.2 ผู้ที่จะได้รับผลกระทบระดับมาก มีร้อยละ 20.0 จะได้รับผลกระทบระดับมากที่สุด มีร้อยละ 13.0 และได้รับผลกระทบระดับน้อย มีร้อยละ 6.0 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามความเห็นว่าหากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/วัน มีการดำเนินการในทันทีแล้วเกิดผลกระทบในด้านต่างๆ ลูกจ้างจะเห็นด้วยหรือไม่ พบว่า 1) หากส่งผลกระทบต่อสวัสดิการต่างๆ ที่เคยได้รับ ร้อยละ 65.5 ไม่เห็นด้วย 2) หากส่งผลให้นายจ้างลดจำนวนแรงงาน ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.1 ไม่เห็นด้วย 3) หากส่งผลให้ชั่วโมงทำงานเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่ ร้อยละ 52.9 ไม่เห็นด้วย และ 4)หากค่าแรงเพิ่มแล้วส่งผลให้ราคาสินค้าทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นตาม ร้อยละ 40.9 ไม่เห็นด้วย

เมื่อสำรวจความคิดเห็นในส่วนของรูปแบบและระยะเวลาในการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ พบว่า ลูกจ้างส่วนใหญ่ร้อยละ 54.8 เห็นด้วยกับวิธีการทยอยขึ้นค่าแรง หากการทยอยขึ้นค่าแรงจะไม่ส่งกระทบกับตัวแรงงาน และอีกร้อยละ 45.2 ไม่เห็นด้วยกับการใช้วิธีทยอยปรับขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของลูกจ้างที่เห็นด้วยกับการทยอยปรับขึ้นค่าแรงนั้น ได้เสนอความเห็นในเรื่องรูปแบบและระยะเวลาในการปรับขึ้นว่า อัตราที่ควรปรับขึ้นมากที่สุดคือระหว่าง 50-99 บาท มากที่สุด ร้อยละ 42.3 รองลงมาควรปรับขึ้นในอัตราไม่เกิน 50 บาท ร้อยละ 38.9 และปรับขึ้นในอัตรา 100 บาทขึ้นไป ร้อยละ 18.8 โดยระยะเวลาในการปรับขึ้น ลูกจ้างเห็นว่าควรดำเนินการภายในระยะเวลา 1-3 เดือน มากที่สุดร้อยละ 87.1 รองลงมาควรดำเนินการภายใน 4-6 เดือน ร้อยละ 12.5 และภายใน 10-12 เดือน ร้อยละ 0.4

หากนายจ้างมีการปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้น ลูกจ้างร้อยละ 26.1 มองว่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้จ่ายเป็นค่าอาหารได้เพิ่มขึ้น รองลงมาร้อยละ 23.8 จะใช้เก็บเป็นเงินออม ร้อยละ 20.3 จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายการศึกษาของบุตรหลาน อีกร้อยละ 17.0 จะนำไปใช้ซื้อสินค้าอุปโภคทั่วไป และเพื่อกิจกรรมอื่นๆ ร้อยละ 12.8

สำหรับมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ลูกจ้างรายวันต้องการเป็นลำดับแรก ได้แก่ มาตรการเรื่องค่าแรง มากที่สุด ร้อยละ 37.0 รองลงมา การควบคุมราคาสินค้าร้อยละ 35.0 การปราบยาเสพติด ร้อยละ 12.8 การป้องกันน้ำท่วมและจัดการน้ำ และอื่นๆ ตามลำดับ

"นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300บาท/วัน เป็นมาตรการที่ละเอียดอ่อนทั้งในแง่เศรษฐกิจและความรู้สึกของทั้งฝ่ายผู้ประกอบการและลูกจ้าง ทั้งสองฝ่ายควรมีการหารือเรื่องนี้ร่วมกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจและมีทางออกที่น่าพึงพอใจทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงเริ่มปรับตัวก่อนการใช้นโยบายจริง นอกจากนั้น ในส่วนของรัฐบาลเองก็ควรศึกษาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปอย่างรอบคอบ กล้าตัดสินใจดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อสังคม และเตรียมมาตรการช่วยเหลือกับผู้ได้รับผลกระทบให้ตรงจุดอีกด้วย" นายประเสริฐ วิจิตรนพรัตน์ หัวหน้าโครงการสำรวจอีสานโพล กล่าว

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน(ECBER) ได้ทำการสำรวจเรื่อง “ค่าแรง 300 บาท กับ ลูกจ้างอีสาน" จากกลุ่มตัวอย่าง 400 ราย ราย ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 20-23 กันยายน 2554


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ