ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: วิตกปัญหายูโรโซน ฉุดเงินยูโรร่วงเทียบดอลล์

ข่าวต่างประเทศ Thursday September 29, 2011 06:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่จะทราบผลการประชุมรัฐสภาเยอรมนีที่จะลงมติเรื่องการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทย ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ปรับตัวลดลง

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.36% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3542 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3591 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.37% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5575 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5633 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.35% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.520 เยน จากระดับ 76.790 เยน แต่พุ่งขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8995 ฟรังค์ จากระดับ 0.8960 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.22% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9782 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9903 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.53% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7765 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7886 ดอลลาร์สหรัฐ

ในช่วงเช้านั้น สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากรัฐสภาฟินแลนด์มีมติเห็นชอบให้มีการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF แต่ยูโรอ่อนแรงลงในช่วงบ่ายเมื่อมีรายงานว่าผู้นำของหลายประเทศในยุโรปมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนจับตาดูการประชุมรัฐสภาเยอรมนีที่จะลงมติเรื่องการขยายกองทุน EFSF ในช่วงเย็นวันนี้ (29 ก.ย.) อย่างระมัดระวัง

ทั้งนี้ นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการประชุมดังกล่าวแม้นางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้แสดงความเชื่อมั่นว่าพรรคคริสเตียน เดโมเครติคส์ (ซีดียู) และพรรคร่วมรัฐบาลของเธอจะสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพรรคฝ่ายค้านในการลงมติเรื่องการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ในการประชุมรัฐสภาครั้งนี้ก็ตาม

สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อนางแมร์เคลนายกรัฐมนตรีเยอรมนีแสดงความเห็นว่า ผู้นำยุโรปอาจจะต้องมีการเจรจากันใหม่ในเรื่องมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสอง ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าผู้นำยุโรปอาจจะเลือกใช้วิธี "haircut" หรือการปรับลดมูลค่าหลักทรัพย์ที่นำมาใช้ค้ำประกันการกู้ยืมสำหรับผู้ที่ถือพันธบัตรของกรีซ ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสไม่เห็นด้วยอย่างมากกับการดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากมีธนาคารหลายแห่งของฝรั่งเศสที่ถือครองพันธบัตรของรัฐบาลกรีซ

นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ได้ปรับลดคาดการณ์มูลค่าสกุลเงินยูโร โดยระบุว่า หากกรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ก็จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อมูลค่าของสกุลเงินยูโร และอาจจะฉุดเศรษฐกิจของยุโรปทั้งทวีปเข้าสู่ภาวะถดถอย

ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนหรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี วงลง 0.1% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 2.018 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากิจกรรมการลงทุนในภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงอ่อนแอ

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและรายได้ส่วนบุคคลเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ