กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในช่วงต้นเดือนก.ย.ขยายตัว 1.2% จากปีที่แล้ว สู่ระดับ 2.00189 ล้านล้านเยน เพราะได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของยอดส่งออกรถยนต์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ถูกกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสึนามิในเดือนมี.ค.
ส่วนยอดการนำเข้าร่วงลง 4.1% สู่ระดับ 1.81337 ล้านล้านเยน ซึ่งส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.8852 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 10 วัน นับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติเมื่อวันที่ 11 มี.ค.
กระทรวงการคลังระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ยอดการส่งออกขยายตัวมาจากการที่บริษัทต่างๆของญี่ปุ่นสามารถจัดการกับภาวะติดขัดของห่วงโซ่อุปทานได้มากขึ้น หลังจากที่ห่วงโซ่อุปทานได้ผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และเป็นเหตุให้ยอดส่งออกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ยอดการนำเข้าชะลอตัวลงส่วนใหญ่มาจากการปรับตัวลงของยอดนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน