นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดพิเศษเมื่อวานนี้เป็นการหารือเรื่องของการวางกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 55 เพื่อนำเสนอต่อกระทรวงการคลังพิจารณาเห็นชอบต่อไปตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ก่อนที่จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบเพื่อประกาศใช้
ธปท.คาดว่าจะสามารถนำข้อสรุปกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเข้าหารือกับกระทรวงการคลังราวต้นเดือน ต.ค.นี้ โดยในส่วนของรายละเอียดการหารือดังกล่าวยังไม่ขอระบุลงไปอย่างชัดเจนว่าเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นของกระบวนการทางกฎหมายเท่านั้น ซึ่งในที่ประชุมเองก็ยังไม่ได้มีการหารือกันถึงภาวะของเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนอย่างมากแต่อย่างใด
“การหารือนัดพิเศษดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถือว่าเป็นการหารือกันตามปกติตามขั้นตอนของกฎหมายเรื่องของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 55 ซึ่งทาง กนง.จะต้องเป็นผู้เสนอไปที่กระทรวงการคลังเพื่อหารือ โดยหากกระทรวงการคลังเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว หรือจะมีข้อเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็จะได้ข้อสรุปก่อนที่จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ก่อนสิ้นปีนี้"นายประสาร กล่าว
สำหรับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนอย่างมากในช่วงนี้ นายประสาร กล่าวว่า ยังคงเป็นประเด็นที่ ธปท. ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดถึงภาวะความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการแก้ไขปัญหาของประเทศในแถบยุโรปยังคงไม่มีความชัดเจนเท่าใดนัก ณ ปัจจุบัน ธปท.คงจะให้ความสำคัญกับภาวะความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลภาวะเงินเฟ้อของประเทศควบคู่กันไปทั้ง 2 ด้าน
นอกจากนี้ ธปท.จะมีการหารือเรื่องการบริหารจัดการกองทุนสำรองระหว่างประเทศ และการแก้ไขปัญหาเรื่องของภาระหนี้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินกับคณะกรรมการของ ธปท.โดยในแต่โจทย์ทั้ง 4 ข้อที่ได้รับมอบหมายมาจากนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง ก็จะถูกจัดสรรอย่างเป็นขั้นตอนตามภาระความรับผิดชอบในแต่ละภาคส่วนของ ธปท.ซึ่งในส่วนของตั๋วเงินบีอี (BE) ขณะนี้ก็ได้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) เรียบร้อยแล้ว
สำหรับในเบื้องต้นของการประชุม กนส.นั้น ที่ประชุมมีความเห็นว่าให้รวมบีอีเข้ากับฐานเงินฝากเพื่อกำหนดสินทรัพย์สภาพคล่อง ซึ่งเป็นมาตรการเบื้องต้น แต่อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวจะต้องมีการหารือร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อีกครั้งหนึ่ง เพราะเป็นอำนาจการอนุญาตเป็นของ ก.ล.ต.
“โจทย์ที่ได้รับมาทั้งหมด 4 ข้อ จะถูกนำเข้าหารือร่วมกับกระทรวงการคลังโดยพร้อมเพียงกันประมาณต้นเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ตามกำหนดเวลาที่ รมว. คลังได้มอบหมายมา"นายประสาร กล่าว