World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Friday September 30, 2011 05:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) ขานรับรัฐสภาเยอรมนีที่ลงมติอนุติการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งจะเปิดทางให้กองทุน EFSF มีอำนาจในการให้ความช่วยเหลือประเทศยูโรโซนที่ประสบปัญหาทางการเงินได้มากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงจำนวนคนว่างงานที่ปรับลดลงมากเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 143.08 จุด หรือ 1.30% ปิดที่ 11,153.98 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 9.34 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 1,160.40 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 10.82 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 2,480.76 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวรัฐสภาเยอรมนีลงมติอนุติการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด หลังจากซิตี้กรุ๊ปปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 82.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำและนำเงินเข้าเทรดในตลาดหุ้น หลังจากรัฐสภาเยอรมนีลงมติอนุติการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดง 0.8 ดอลาร์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,617.3 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) ขานรับรัฐสภาเยอรมนีที่ลงมติอนุติการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งจะเปิดทางให้กองทุน EFSF มีศักยภาพในการเพิ่มทุนให้กับภาคธนาคารและให้ความช่วยเหลือประเทศยูโรโซนที่ประสบปัญหาทางการเงินได้มากขึ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.13% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3558 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3541 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ขยับขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5590 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5575 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 76.730 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 76.540 ดอลลาร์สหรัฐ แต่อ่อนตัวลง 0.07% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8990 ฟรังค์ จากระดับ 0.8996 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.55% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9722 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9776 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.37% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7657 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7763 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจจะทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกโลหะ ปรับตัวลดลงด้วย

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 20.79 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 5,196.84 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ