นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,618,739 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 151,303 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.3 โดยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลจาก 3 กรมจัดเก็บภาษี รวมทั้งการนำส่งรายได้จากรัฐวิสาหกิจและส่วนราชการอื่นเพิ่มขึ้นมาก
ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,984,484 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 392,775 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.7 ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 365,745 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 58,956 ล้านบาท (จากการชดใช้เงินคงคลัง เงินฝากคลังของเงินกู้ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง) ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 306,789 ล้านบาท และรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 147,517 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 159,272 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2554 มีจำนวน 270,050 ล้านบาท
“จากทิศทางการจัดเก็บรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจทำให้กระทรวงการคลังมั่นใจว่าในปีงบประมาณ 2554 การจัดเก็บรายได้รัฐบาลจะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยจะสูงกว่าเป้าหมายประมาณ 2.35 แสนล้านบาท และส่งผลให้ฐานะการคลังของประเทศมีความพร้อมต่อการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในอนาคต" นายนริศ กล่าว