กระทรวงเศรษฐกิจความรู้ของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าของประเทศหดตัวลงมาอยู่ที่ 1.44 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน ซึ่งลดลงอย่างมากจากระดับ 4.41 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุมาจากการนำเข้าที่ทะยานขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ระบุว่า ตัวเลขเดือนกันยายนขยายตัวมากกว่า 70% เมื่อเทียบกับยอดเกินดุลที่ 479 ล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า และดุลการค้าของเกาหลีใต้ในเดือนที่แล้วยังคงเกินดุลมาเป็นเดือนที่ 20 ติดต่อกันแล้ว
การขยายตัวของการนำเข้าสูงกว่าการส่งออก ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ โดยยอดส่งออกขยายตัว 19.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ 4.712 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน ขณะที่การนำเข้าทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ที่ 4.568 หมื่นล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 30.5% จากปีก่อน
กระทรวงระบุว่า แม้การขยายตัวของการส่งออกชะลอตัวลงในเดือนกันยายน เนื่องจากความไม่แน่นอนต่างๆในต่างประเทศ อาทิ วิกฤตการคลังยุโรป และการฟื้นตัวที่ซบเซาของเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ความต้องการสินค้าส่งออกหลักๆที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และยานยนต์ ยังคงช่วยให้การส่งออกขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
การส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมัน ยานยนต์ และผลิตภัณฑ์เหล็กในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 56.8%, 40% และ 39.6% ตามลำดับ จากปีที่แล้ว แต่การส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ อุปกรณ์เคลื่อนที่ และเรือ หดตัว 4.2%, 7.5% และ 32.7% ตามลำดับ
เมื่อพิจารณาเป็นรายภูมิภาค พบว่า การส่งออกไปยังประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่คิดเป็นสัดส่วนมากที่สุดในเดือนกันยายน โดยการส่งออกไปยังอาเซียนและจีนในเดือนที่แล้ว พุ่ง 43.2% และ 20.5% ตามลำดับ เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่การส่งออกไปยังญี่ปุ่น สหรัฐ ยุโรป ขยายตัว 48.7%, 15.9% และ 11.2% ตามลำดับ
ขณะเดียวกันการนำเข้าทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกันยายน เนื่องจากความต้องการวัตถุดิบที่แข็งแกร่ง โดยยอดนำเข้าก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และถ่านหิน ขยายตัว 83.3%, 41.4% และ 39.5% ตามลำดับ เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น
เมื่อแยกเป็นภูมิภาค การนำเข้าจากญี่ปุ่นพุ่ง 10.6% จากปีที่แล้ว เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่แข็งแกร่ง ขณะที่การนำเข้าจากสหรัฐอเมริกาโต 33.8% เนื่องจากความต้องการชิปและผลิตภัณฑ์เหล็กที่เพิ่มสูงขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน