ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วง 240.60 จุด หรือ 2.16% ปิดที่ 10,913.38 จุด ดัชนี S&P 500 ทรุด 28.98 จุด หรือ 2.50% ปิดที่ 1,131.42 จุด และดัชนี Nasdaq ดิ่ง 65.36 จุด หรือ 2.63% ปิดที่ 2,415.40 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลงปิดที่ระดับต่ำกว่า 79 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่า เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะฉุดรั้งความต้องการพลังงานให้ลดลงตามไปด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 2.94 ดอลลาร์ หรือ 3.58% ปิดที่ 79.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2553
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (30 ก.ย.) จากแรงซื้อเก็งกำไร เนื่องจากการปรับฐานรุนแรงในช่วงหลายวันที่ผ่านมาจนทำให้ราคาทองคำร่วงลงไปมากนั้น กระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อทองคำซึ่งถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดความเสี่ยงอีกครั้ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 5 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,622.3 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,607.80 - 1,642.50 ดอลลาร์
-- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) โดยความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปและภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เนื่องจากมองว่าดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังเผชิญกับภาวะเปราะบาง
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.18% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.960 เยน จากระดับ 76.820 เยนเมื่อวันพฤหัสบดี, พุ่งขึ้น 0.88% เมื่อเปรียบเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9051 จาก 0.8972 ฟรังค์ และพุ่งขึ้น 0.86% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาระดับ 1.0444 จากระดับ 1.0355 ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.27% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3418 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3591 เมื่อวันพฤหัสบดี ขณะที่เงินปอนด์ขยับลง 0.01% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5623 จากระดับ 1.5625 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.93% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9688 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9779 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.93% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7630 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7702 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ย.) หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ ทั้งยอดค้าปลีกเยอรมนีและข้อมูลภาคการผลิตจีน ซึ่งยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว
ดัชนี FTSE 100 ร่วง 68.36 จุด หรือ 1.3% ปิดที่ 5,128.48 จุด และตลอดไตรมาส ดัชนีปรับตัวลง 14% ซึ่งเป็นการปิดท้ายไตรมาสที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2545 เนื่องจากความวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้ของกรีซจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป