น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ บ.เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก (MTS)คาดว่า ราคาทองคำตลาดโลกในปีนี้คงจะยังไม่ไปไม่ถึง 2,000 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ตามที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ แต่อาจจะมีโอกาสขยับขึ้นไปถึงระดับดังกล่าวในปี 55 ส่วนปลายปีนี้ราคาอาจจะขึ้นไปแตะระดับ 1,900 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิม
"เป้า 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์คงต้องเป็นปีหน้าเพราะตอนนี้ตกหนัก อย่างไรก็ตาม เป้า 2,000 ดอลลาร์ฯ ยังเป็นไปได้อยู่ แต่ต้องเป็นระยะกลาง-ยาว"น.พ.กฤชรัตน์ กล่าว
ประธาน MTS กล่าวว่า แนวโน้มระยะสั้น-กลางราคาทองยังเป็นขาลง หรืออาจจะเห็นการแกว่งตัวขึ้น-ลงวันเว้นวัน แต่ไม่น่าตกลงลึกมาก เนื่องจากการราคาลงรอบนี้เป็นเพราะธนาคารกลางของแต่ละประเทศหรือกองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์)ขายทองคำออกมา เพื่อถือเงินเหรียญสหรัฐเพื่อเป็นสภาพคล่อง ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานของทองคำเปลี่ยนแปลงไป คาดว่าภาวะนี้เป็นแค่ช่วงสั้น เพราะทองคำยังมีฐานะเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย
"ปกติเวลาหุ้นตก ทองจะไม่ตก แต่รอบนี้ 3-4 วันที่ผ่านมากอดคอกันลง เพราะขายทองไปเสริมสภาพคล่อง ซึ่งเป็นช่วงสั้น แต่วันนี้หุ้นตกหนัก แต่ทองเริ่มไม่ตกแล้ว"น.พ.กฤชรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ มองระยะสั้นทองคำน่าจะทรงตัวได้ เพราะปัจจัยพื้นฐานยังดี อีกทั้งเชื่อว่าราคาทองจะฟื้นตัวกลับเร็วกว่าราคาหุ้น เพราะสหภาพยุโรป(อียู)น่าจะตกลงกันได้ แม้ปัญหาของกรีซยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น แต่ก็คงไม่น่าจะถึงขนาดทำให้เกิดภาวะวิกฤติจนอียูล่มสลาย
อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวยังเป็นปัจจัยเกื้อหนุนราคาทองคำอยู่ และตอนนี้ตลาดโลกประเมินว่าอุปทานไม่พอกับความต้องการที่แท้จริงที่มีอยู่สูงมาก บางช่วงต้องเลื่อนการส่งมอบไป 7-10 วัน จากนี้ไปแรงขายทองคำน่าจะลดลง เพราะยังมั่นใจว่าท้ายที่สุดนักลงทุนทั่วโลกหรือบรรดาเฮดจ์ฟันด์จะต้องกลับมาถือทองคำอีก
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุนระยาว-กลางควรทยอยซื้อสะสม เพราะราคาตกมากแล้ว แต่ต้องทยอยซื้อทีละ 10% และกระจายวันซื้อเพื่อกระจายความเสี่ยงเรื่องราคา
ส่วนนักลงทุนระยะสั้นและโกลด์ฟิวเจอร์ส ทิศทางยังไม่ชัดเจนขึ้นวันลงวัน แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นทำระดับต่ำสุดใหม่(นิวโลว์) จากโลว์เดิมที่ 1,530 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ยังรับได้อยู่ แต่หากจะเล่นต้องเข้าเร็วออกเร็วเป็นรายวันเพราะราคาแกว่งตัวค่อนข้างมาก หรืออาจพักไว้ก่อนหากทิศทางยังผันผวน
"ตอนนี้จะเห็นวอลุ่มซื้อขายต่ำลง ช่วงนี้ทองคำเป็นช่วงสะสมพลัง ภายในสัปดาห์นี้น่าจะรู้เรื่อง แต่ถึงจะตกแรงก็ไม่เชื่อว่าจะหลุด 1,500 ดอลลาร์ แนวรับตอนนี้ 1,530 ถือว่าแข็งแกร่งมาก"น.พ.กฤชรัตน์ กล่าว
ด้านนายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บ.ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า การปรับฐานของทองรอบนี้เพราะนักลงทุนหันมาถือครองเงินเหรียญสหรัฐแทน แต่เชื่อว่าไตรมาส 4/54 ราคาทองจะปรับขึ้นแตะ 1,800 ดอลลาร์อีกครั้ง ช่วงนี้ติดตามสถานการณ์กรีซ และการจ้างงานสหรัฐที่จะประกาศศุกร์นี้ ช่วงนี้นักลงทุนระยะยาวซื้อได้ แต่ถ้าจะเก็งกำไรต้องระวัง มองปี 55 ราคาทองยังมีโอกาสไปถึงะ 2,000 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ช่วงนี้หาจังหวะซื้อถือยาวไปปีหน้าได้
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.ออสสิริส ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า สำหรับนักลงทุนระยะยาว ทองแท่งและ EFT โกลด์ยังน่าสนใจ ช่วงนี้เป็นโอกาสซื้อเพราะทองเคยขึ้นไปบาทละ 27,000 บาท ตอนนี้ลงมาเหลือ 24,000 บาท ปรับตัวลงมาถึง 3,000 บาท คนที่ซื้อตอนนี้ถือว่าได้เปรียบ ขณะการลงรอบนี้ราคาก็ยังพยายามยืนให้เหนือ 1,600 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์