สำนักงานสถิติของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนสิงหาคมขยายตัว 37.05% มาอยู่ที่ 1.881 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อน
รายงานระบุว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.เติบโตน้อยกว่าเดือนก.ค.ซึ่งอยู่ที่ 39.55% อย่างไรก็ดี มูลค่าการส่งออกรวมในเดือนส.ค. สูงกว่าระดับ 1.743 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ค.
นายยามาล เอสอี รองหัวหน้าฝ่ายเผยแพร่ข้อมูลของสำนักงานสถิติกล่าวระหว่างงานแถลงข่าวว่า สำหรับยอดส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมันและก๊าซในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 8.12% แตะ 1.472 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อน
ก่อนหน้านี้ นายมหินทรา ซิเรการ์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพาณิชย์อินโดนีเซียเผยว่า รัฐบาลคาดการณ์ว่ายอดส่งออกอาจจะขยายตัวแตะระดับสูงกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เนื่องจากการส่งออกสินค้าไปยังประเทศกำลังพัฒนาเพิ่มสูงขึ้น การคาดการณ์ดังกล่าวสูงกว่าเป้าในเบื้องต้นที่รัฐบาลตั้งไว้ 12% หรือ 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายซิราการ์กล่าวว่า อินโดนีเซียหันมากระจายการส่งออกให้กับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และกำลังพัฒนา และลดสัดส่วนการส่งออกไปยังประเทศพัฒนาแล้วซึ่งกำลังประสบกับปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว
สำหรับสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ของประเทศเป็นผลิตภัณฑ์จากทรัพยากรธรรมชาติและสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งคิดเป็นกว่า 32% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียระบุว่า การส่งออกที่ขยายตัวถือเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้เศรษฐกิจประเทศเติบโต ตามมาด้วยการขยายตัวของการลงทุนและการบริโภค
นายยามาลกล่าวว่า ในส่วนของการนำเข้าเดือนส.ค. ลดลง 7.12% มาอยู่ที่ 1.505 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับปีก่อน สำนักข่าวซินหัวรายงาน