คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป มีมติกระตุ้นการจ้างงานผ่านกองทุนสวัสดิการสังคมยุโรป (European Social Fund: ESF) ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ European 2020
แถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยคณะมนตรีฯ ภายหลังการประชุมว่าด้วยการจ้างงาน นโยบายสังคม สุขภาพ และกิจการผู้บริโภค ระบุว่า คณะมนตรีฯ จะหันมาให้ความสำคัญกับวัตถุประสงต์เชิงการเมืองที่มีประสิทธิภาพ โดยอาจจะด้วยวิธีการลดขั้นตอนการบริหารและงานราชการที่ล่าช้า จากเดิมที่ให้ความสำคัญกับการอัดฉีดเม็ดเงินและผลลัพธ์ที่ได้
นายโจแลนตา เฟดัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและนโยบายสังคมของคณะมนตรีฯ กล่าวว่า "เป้าหมายของกองทุน ESF ควรมีความสัมพันธ์กับยุทธศาสตร์ EU 2020 แต่ขณะเดียวกันก็ควรตอบสนอต่อความต้องการเฉพาะด้าน และจัดลำดับความสำคัญของประเทศสมาชิกในระดับประเทศและระดับภูมิภาค"
กองทุน ESF เป็นเครื่องมือระดมทุนในระดับยุโรปเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน การมีส่วนร่วมทางสังคม และโอกาสที่เสมอภาคกัน รวมทั้งเพื่อพัฒนาทักษะและความสามารถในการแข่งขัน
ในระหว่างปี 2550-2556 กองทุน ESF มีขนาดทุนช่วยเหลือแก่หน่วยงานระดับประเทศและภูมิภาคจำนวน 7.5 หมื่นล้านยูโร (9.975 หมื่นล้านดอลลาร์)
ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นการจ้างงานระหว่างปี 2557-2560 และเพื่อให้ยุทธศาสตร์ EU 2020 บรรลุเป้าหมาย คณะกรรมาธิการยุโรปจึงได้เสนอว่า กองทุน ESF ควรจะเพิ่มทุนอีก 10% เมื่อเทียบกับขนาดกองทุนในระหว่างปี 2550-2556 เป็น 8.4 หมื่นล้านยูโร (1.1172 แสนล้านดอลลาร์) สำนักข่าวซินหัวรายงาน