ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ ขานรับรายงานข่าวของไฟแนนเชีย ไทมส์ที่ว่า รมว.คลังยุโรปมีมติเห็นชอบให้เพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยุโรป เพื่อป้องกันไม่ให้ภาคธนาคารได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 131.24 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 10,939.95 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 20.08 จุด หรือ 1.79% ปิดที่ 1,144.03 จุด ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 55.69 จุด หรือ 2.32% ปิดที่ 2,460.51 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% เมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วลดลงเกินคาด และ ADP ระบุว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงานมากขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 4.01 ดอลลาร์ หรือ 5.30% ปิดที่ 79.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงไปถึง 2.5% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ การปรับฐานขึ้นของราคาน้ำมันดิบและความกังวลเรื่องหนี้สินของกรีซยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 25.6 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1,641.6 ดอลลาร์/ออนซ์
-- สกุลเงินยูโรยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่ผู้นำยุโรป ซึ่งรวมถึงนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ให้การสนับสนุนมาตรการเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยุโรป เพื่อปกป้องภาคธนาคารไว้จากวิกฤตหนี้สาธารณะ นอกจากนี้ ยูโรยังดีดตัวขึ้นขานรับข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรีเยอรมนีอาจจะเปิดทางให้มีการนำเงินจากกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) เข้าไปช่วยเหลือภาคธนาคารของยูโรโซน
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3345 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3338 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5460 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5483 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.08% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.770 เยน จากระดับ 76.830 เยน แต่พุ่งขึ้น 0.72% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9229 ฟรังค์ จากระดับ 0.9163 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.81% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9651 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9573 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.64% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7652 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7603 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าผู้นำยุโรปมีมติเห็นชอบให้การสนับสนุนมาตรการเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยุโรป เพื่อปกป้องภาคธนาคารไว้จากวิกฤตหนี้สาธารณะ
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ระดับ 5102.17 จุด พุ่งขึ้น 157.73 จุด