สกุลเงินยูโรยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่ผู้นำยุโรป ซึ่งรวมถึงนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ให้การสนับสนุนมาตรการเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยุโรป เพื่อปกป้องภาคธนาคารไว้จากวิกฤตหนี้สาธารณะ นอกจากนี้ ยูโรยังดีดตัวขึ้นขานรับข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรีเยอรมนีอาจจะเปิดทางให้มีการนำเงินจากกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) เข้าไปช่วยเหลือภาคธนาคารของยูโรโซน
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3345 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3338 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5460 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5483 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.08% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.770 เยน จากระดับ 76.830 เยน แต่พุ่งขึ้น 0.72% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9229 ฟรังค์ จากระดับ 0.9163 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.81% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9651 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9573 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.64% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7652 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7603 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจัดขึ้นที่ลักเซมเบิร์มีมติเห็นชอบร่วมกันว่าจะเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยูโรโซน เพื่อปกป้องภาคธนาคารก่อนที่จะลุกลามเป็นวิกฤตการณ์ และสกุลเงินยูโรแข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อนางแมร์เคล นายกรัฐมตรีเยอรมนี ได้ออกมาสนับสนุนการเพิ่มทุนให้กับภาคธนาคาร พร้อมกับส่งสัญญาณว่าเยอรมนีอาจจะเปิดทางให้มีการนำเงินจากกองทุน EFSF เข้าไปช่วยเหลือภาคธนาคารของยูโรโซน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การตัดสินใจสนับสนุนการเพิ่มทุนให้กับภาคธนาคารของนางแมร์เคลมีขึ้นหลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสและเบลเยียมประกาศมาตรการให้ความช่วยหลือธนาคารเด็กเซีย ซึ่งมาตรการดังกล่าวกำหนดว่าธนาคารเด็กเซียจะถูกแยกกิจการ โดยการขายธุรกิจที่แข็งแกร่ง ส่วนสินทรัพย์ที่มีปัญหาซึ่งรวมถึงพันธบัตรรัฐบาลกรีซและพันธบัตรรัฐบาลของประเทศอื่นๆที่มีเศรษฐกิจอ่อนแอในยูโรโซนนั้น จะอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ bad bank ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาดีเกินคาดของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งมีความปลอดภัย โดยในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 91,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. มากกว่าเดือนส.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 89,000 ตำแหน่ง และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า เผยดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ขยายตัวที่ระดับ 53 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวเพียง 52.9 จุด
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 50,000 - 73,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ย.จะยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 9.1%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั้งสองแห่งจะหารือกันเรื่องการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม