รมว.เกษตรและป่าไม้จากกลุ่มสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และจีน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) โดยย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเพิ่มความร่วมมือในภาคอาหาร, เกษตร และป่าไม้ทั่วภูมิภาค
ในการลงนามใน MOU ดังกล่าว บรรดารัฐมนตรีขานรับการพัฒนากลยุทธ์ความร่วมมือของอาเซียน+3 (APTCS) ซึ่งประกอบด้วยภาคกลยุทธ์ 6 ภาค อันได้แก่ ความมั่นคงด้านอาหาร, การพัฒนาพลังงานมวลชีวภาพ, การจัดการป่าไม้ให้คงอยู่ยั่งยืน, การลดและการปรับการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ , การควบคุมสุขภาพสัตว์และโรค และประเด็นที่เกี่ยวข้อง
หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์รายงานว่า ข้อตกลงฉบับหนึ่งที่มีการลงนามในการประชุมครั้งที่ 33 ของรมว.อาเซียนว่าด้วยการเกษตรและป่าไม้ (AMAF) คือ ข้อตกลงคลังสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียน+3 (APTERR)
จากการลงนามในข้อตกลง APTERR นั้น 13 ประเทศตกลงที่จะจัดหาสต็อคข้าว 787,000 ตันในกรณีที่เกิดผลกระทบที่บั่นทอนเสถียรภาพด้านอุปทานและการผลิตที่อาจจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยกลุ่มประเทศอาเซียนจะจัดหาข้าว 87,000 ตันของจำนวนดังกล่าว
ไทยจะจัดหาข้าว 15,000 ตัน, เวียดนาม และพม่า 14,000 ตัน, อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ 12,000 ตัน, มาเลเซีย 6,000 ตัน และสิงคโปร์ 5,000 ตัน ในขณะที่บรูไน, ลาว และกัมพูชาจะจัดหาข้าวรายละ 3,000 ตัน จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีจะจัดเตรียมข้าว 300,000 ตัน, 250,000 ตันและ 150,000 ตันตามลำดับ