นายสุภาพ คลี่ขจาย ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งวอร์รูม เพื่อระดมความคิดจากบุคลากรทุกฝ่าย เพื่อหาแนวทางในการดำเนินติดตามและแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมภาคอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพสูงสุดมา 3 วันแล้ว
และในช่วงบ่ายวันนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้เชิญ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการเจ้าของนิคมอุตสาหกรรม เพื่อหารือถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นว่าสถานการณ์หนักเพียงใด และต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรมและรัฐบาลช่วยอย่างไรบ้าง คาดว่าความช่วยเหลือที่ภาคอุตสาหกรรมจะร้องขอเช่น การปรับโครงสร้างหนี้ ขอรับการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงอุตสาหกรรมมีธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) อยู่แล้ว
นอกจากนี้ คาดว่าจะมีการขอการลดอัตราการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล อาจขอสนับสนุนลดค่าน้ำค่าไฟ ขอลดพลังงานเชื่อเพลิงการผลิต เป็นต้น
นายสุภาพ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับการร้องขอให้ช่วยจัดหาและเร่งรัดโรงงานผลิตกระสอบและถุง เพื่อใช้บรรจุทรายป้องกันน้ำท่วม และหินคลุก หินฝุ่น ซึ่งหินคลุมมีอยู่มากถึง 3 ล้านตันที่อำเภออู่ทองจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนยอดความต้องการใช้และยอดส่งให้ความช่วยเหลือยังไม่สามารถสรุปตัวเลขได้ในขณะนี้
"กระทรวงอุตสาหกรรมและรัฐบาลมีความตั้งใจดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันให้ได้น้ำเข้าท่วมนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค เพื่อพยุงสถานะเศรษฐกิจที่กำลังจะเป็นผลสืบเนื่องที่จะเกิดขึ้น เพราะหากป้องกันนิคมอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ และโรงงานขนาดใหญ่ไม่ได้ที่สุดแล้ว จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปต่อเศรษฐกิจเป็นลูกโซ่ ทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศลดลงโดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภาย ในประเทศ(จีดีพี) จะขยายตัวลดลงในที่สุด เพราะการที่โรงงานผลิตสินค้าไม่ได้ จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าในที่สุด ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมในอยุธยาหลายโรงงานผลิตชิ้นส่วนและส่งมอบให้โรงงานที่นำไปผลิตต่อเป็นสินค้าหากส่งมอบไม่ได้ก็ไม่สามารถผลิตสินค้าส่งออกได้" นายสุภาพ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ ล่าสุดของนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ มีโรงงานถูกน้ำท่วมแล้ว 17 โรงงาน จากทั้งสิ้น 198 โรงงาน ซึ่งในภาพรวมได้หยุดการผลิตอย่างสิ้นเชิงแล้ว มูลค่าการลงทุนรวม 56,000 ล้านบาท คนงานทำงานรวม 90,000 คน ส่วนนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกและชิ้นส่วนยานยนต์ รัฐบาลให้ความสำคัญไม่ให้น้ำท่วมเต็มที่ ซึ่งขณะนี้น้ำยังไม่ท่วม มีโรงงานตั้งอยู่ในนิคมรวม 143 โรงงาน เงินลงทุน 65,000 ล้านบาท คนงาน 50,000 คน
ส่วนนิคมอุตสหกรรมสหรัฐนคร ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมและรัฐบาลจับตาสถานการณ์น้ำในจังหวัดปทุมธานีว่า จะส่งผลกระทบต่อเขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนคร และนิคมอุตสาหกรรมบางกระดี่หรือไม่ โดยเขตประกอบการอุตสาหกรรมนวนคร มีโรงงาน 227 โรงงาน วงเงินลงทุน 40,000 ล้านบาท คนงาน 120,000 คน ส่วนนิคมอุตสาหกรรมบางกระดี มีโรงงาน 50 โรง วงเงินลงทุน 25,000 ล้านบาท
นายสุภาพ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ตั้งคำถามผ่านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)ว่า ประเทศไทยจะสามารถป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้อีกหรือไม่อย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้ชี้แจงไปว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญโดยล่าสุดระดมทุกหน่วยงานวางแผนร่วมกันในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและแนวทางป้องกัน ส่วนจะป้องกันได้หรือไม่คงไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะต้องระยะเวลาและเงินในการดำเนินการ และสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในปีนี้ เชื่อว่า จะมีส่วนในการตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่อย่างไรของนักลงทุน แต่ไม่ใช่ทั้งหมดยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่นักลงทุนต้องพิจารณาอีกด้วย
รายงานข่าว ระบุว่า ในวันนี้ทางบริษัท ฮอนด้าคาร์ส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะออกแถลงการณ์ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับโรงงานผลิตรถยนต์ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ขณะนี้กำลังประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับโรงงาน