นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เผยฐานะการคลังของภาครัฐบาล(รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามระบบ สศค.(Government Finance Statistics : GFS) ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 54(ต.ค.53-มิ.ย.54) ดุลการคลังภาครัฐขาดดุล 2.62 แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 1.46 แสนล้านบาท
"การขาดดุลการคลังของภาครัฐบาลในช่วง 9 เดือนแรก เป็นการขาดดุลในส่วนของรัฐบาลจากรายจ่ายที่ขยายตัวในอัตราที่สูง ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการดำเนินนโยบายการคลังของรัฐบาลในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืน" นายสมชัย กล่าว
โดยช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 54(เม.ย.-มิ.ย.54) ดุลการคลังภาครัฐบาลเกินดุลจำนวน 111,626 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เกินดุล 140,993 ล้านบาท โดยมีรายได้ทั้งสิ้น 812,245 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 98,898 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.3 เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ทั้งภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บและแบ่งให้เพิ่มขึ้น รวมทั้งการจัดสรรเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน ส่วนรายจ่ายภาครัฐบาลมีจำนวน 700,627 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 98,264 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.3
ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 54 ภาครัฐบาลมีรายได้ทั้งสิ้น 2,081,050 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 19.1 ของ GDP เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 256,897 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.1 ขณะที่รายจ่ายภาครัฐบาลมีจำนวน 2,343,558 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 402,982 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.8 เนื่องจากการเบิกจ่ายของรัฐบาลสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วมากถึง 361,890 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.4 ส่งผลให้ดุลการคลังภาครัฐบาลขาดดุลจำนวน 262,508 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ขาดดุล 116,423 ล้านบาท จำนวน 146,085 ล้านบาท