สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) โดยสัญญาทองคำพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,670 ดอลลาร์/ออนซ์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 สัปดาห์ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 35 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,670.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 98.7 เซนต์ หรือ 3.2% ปิดที่ 31.98 ดอลลรร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 94.5 เซนต์ ปิดที่ 3.3680 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 31.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,525.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 28.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 614.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ในตลาดว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้สัญญาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 2% มาจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธนาคารของยุโรป
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลง 1.5% มาอยู่ที่ระดับ 77.6 จุด ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐจะทำให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในหมู่นักลงทุนรายย่อน โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยจากประเทศจีน