กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคมลดลง 64.3% จากเมื่อปีก่อน สู่ระดับ 4.075 แสนล้านเยน (5.31 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) นับเป็นการลดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น
รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า ราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นและเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลสำคัญส่งผลกระทบต่อการเติบโตของการส่งออกภายหลังจากการฟื้นตัวของระบบขนส่งภายในประเทศซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
กระทรวงคลังยังระบุอีกว่า ยอดส่งออกของเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 4.0% จากเมื่อปีก่อน ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบรายปี หลังจากที่ยอดส่งออกหดตัวลง 2.3% เมื่อเดือน ก.ค. ในขณะเดียวกัน ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 22.4% ในช่วงททำการบันทึกบัญชี โดยเพิ่มขึ้น 13.6% จากเดือนก่อน
ยอดขาดดุลการค้าอยู่ที่ 6.947 แสนล้านเยนซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่บัญชีสินค้าและบริการขาดดุล 8.773 แสนล้านเยนในเดือนส.ค. เมื่อเทียบกับยอดเกินดุล 9.37 หมื่นล้านเยนในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สำนักข่าวซินหัวรายงาน